อยู่ๆ ไปก็รักกันเอง....
ห่างหายจากซีรีย์ญี่ปุ่นมานานพอสมควร เรื่องล่าสุดที่ดูคือ Nodame Cantabile. ด้วยความที่ไม่ชอบแอคติ้งแบบการ์ตูนของซีรีย์ญี่ปุ่น เลยทำให้ทนดูไม่ค่อยจะไหว ยกเว้นจะมีแรงจูงใจมากจริงๆ แต่แล้วก็มีโอกาสหวนกลับมาดูซีรีย์ญี่ปุ่นจนได้ ด้วยความที่อยากดูอะไรเบาๆ ให้ผ่อนคลาย ก็เลยจัดไป 2 ซีซั่น 27 ตอน แล้วถามว่าผ่อนคลายมั๊ย….
Good Morning Call เป็นซีรีย์ที่สร้างมาจากมังงะชื่อดังของญี่ปุ่น แน่ใจได้เลยว่าจะได้เห็นแอคติ้งเว่อๆ ตามสไตล์ญี่ปุ่นแน่นอน เรื่องเริ่มจาก อุเอฮาระ ฮิซาชิ (ชิราอิชิ ชุนยะ) หนุ่มหล่อตัวท๊อปของโรงเรียน ที่เรียกว่าเดินไปไหน ทุกคนต้องแหวกทางให้เป็นแถว สาวๆ ทั่วโรงเรียนถึงขั้นยอมตั้งตำแหน่งสมบัติของโรงเรียน และทำพันธสัญญาร่วมกันว่าจะไม่มีใครแตะต้องเขา ชายหนุ่มหล่อเหลาราวกับเจ้าชาย แต่เย็นชา และไร้เพื่อนสนิท ต้องมาตกกระไดพลอยโจนเป็นรูมเมท โยชิคาวะ นาโอะ (ฟุกุฮาร่า ฮารุกะ) หญิงสาวแสนธรรมดา และออกจะติ๊งต๊องไปหน่อย แต่ภายใต้ความธรรมดาของเธอนั้น กลับซ่อนความเห็นอกเห็นใจ และจิตใจที่ดีงามไว้
ว่ากันว่าน้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน แล้วชายหนุ่ม หญิงสาวอยู่ด้วยกันทุกวัน หัวใจอ่อนๆ จะไม่ไหวเอนไปได้อย่างไร โยชิคาวะ เริ่มได้เห็นความเข้มแข็งบนความโดดเดี่ยวของเจ้าชายผู้เย็นชา ในความสมบูรณ์แบบที่เขามี ที่ทุกคนมองว่าชีวิตของเขาสุขสบาย แต่ความจริงแล้วเขาบากบั่น และตั้งใจทำทุกอย่างด้วยความเด็ดเดี่ยว อุเอฮาระ เจ้าชายน้ำแข็งที่ไม่เคยเปิดใจให้ใคร ก็เริ่มรับเอาหญิงสาวไม่เอาไหน แต่มีหัวใจที่สุดแสนบริสุทธิ์ และคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองอยู่เสมอ เข้ามาอยู่ในหัวใจ แม้จะขัดเขินไปบ้าง แม้จะขาดๆ เกินๆ แต่ทั้งสองคนก็ประคับประครองกันเรื่อยมา
แต่รักแท้ย่อมมีอุปสรรค ทั้งจากรักแรกที่อุเอฮาระไม่เคยลืม จนถึงชายหนุ่มที่มองเห็นความดีงามในใจของโยชิคาวะ และตั้งธงว่าจะต้องครอบครองหัวใจเธอ บทพิสูจน์รักวัยใสมีมาให้ฟ่าฟันครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่มีเรื่องไหนจะใหญ่โตไปกว่า วัยอันสมควรของทั้งคู่ เด็กมัธยมปลายจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมชายคาเดียวกันได้อย่างไร และทางออกอาจหมายถึงการต้องแยกจากกัน...
ในส่วนของซีซั่น 2 ฟังดูเหมือนทุกอุปสรรคจะผ่านพ้นไปแล้ว ทั้งทางออกเรื่องวัยอันสมควร รักแรก และรักซ้อน แต่ก็ใช่ว่าอุปสรรคจะหมดไปง่ายๆ
เมื่อก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยก็คือ อุเอฮาระยังเป็นคนดัง เป็นที่หมายตาของสาวๆ อยู่เสมอ ส่วนโยชิคาวะก็งุ่นง่านอยู่กับการวิ่งตามเขาไม่เว้นแต่ละวัน สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปยิ่งทำให้ทั้งสองคนดูห่างกันมากยิ่งขึ้น การเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องรางของนัตสึเมะ ชายหนุ่มสุดป๊อบผู้เป็นมิตร ยิ่งทำให้สถานะภาพของทั้งคู่สั่นคลอน นัตสึเมะกลายเป็นคนที่เข้าหาอุเอฮาระในวันที่เขายังปรับตัวกับที่ใหม่ไม่ได้ ทำให้เขากลายมาเป็นเพื่อนสนิทของอุเอฮาระ และความบังเอิญที่ทำให้เขาพบกับโยชิคาวะ และกลายเป็นเพื่อนสนิทของทั้งคู่ไปโดยปริยาย
ในขณะที่อุเอฮาระเริ่มไม่มั่นใจว่าตัวเองดีพอสำหรับโยชิคาวะหรือไม่ นัตสึเมะก็เริ่มซึมซับความดีงามในใจของโยชิคาวะและก่อเกิดเป็นความรักในใจ แบบเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ อุเฮฮาระเริ่มสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเพื่อนสนิท พร้อมกับตั้งคำถามว่า เขาดีพอสำหรับหัวใจของโยชิคาวะหรือไม่
โยชิคาวะ ผู้วิ่งตามและไม่เคยรู้สึกถึงความรู้สึกแท้จริงที่อุเอฮาระมีต่อเธอ ยิ่งนานวันก็ยิ่งเกิดคำถามในใจว่า หากวันนั้นเธอไม่ใช่คนที่บังเอิญไปอยู่ร่วมห้องกับเขา แล้วเขายังจะเลือกเธอ จะมองเห็นเธออยู่หรือเปล่า
ความไม่แน่ใจ ความสงสัย และสถานการณ์รอบตัวยิ่งทำให้สถานะความสัมพันธ์ของทั้งคู่สั่นคลอน เมื่อต่างฝ่ายต่างอยากเป็นคนที่ดีกว่าเพื่อกันและกัน แล้วจะทำอย่างไรให้หัวใจที่ทั้งคู่มีให้กันไม่ถูกทำลาย….
ด้วยความที่เนื้อเรื่องมันสุดแสนธรรมดา ขายความฟิน แต่ก็นั่นแหละที่ทำให้เจ้าชายเย็นชาแบบอุเอฮาระ มาทำให้คนดูจิกหมอน กรีดร้องในความฟินได้แบบไม่ต้องห่วงพะวงความเข้มข้นของบทหรือเนื้อเรื่องเลย การเลือกชุนยะมารับบทเจ้าชายเย็นชาที่คนกรี๊ดกร๊าดกันทั่วบ้านทั่วเมือง ก็เรียกว่าทำได้เป๊ะเว่อร์แบบไม่ขัดความรู้สึกเลย แต่เอาจริงๆ เราเองก็ไม่ได้ชอบเนื้อเรื่องสไตล์ญี่ปุ่น ที่นางเอกชอบพูดคนเดียว มโนคนเดียว ร่วมไปถึงสารพัดปัญหาที่ดูจะหาทางออกไม่ได้ แต่กลับมาคลี่คลายด้วยคำพูดปลุกใจจากใครสักคน มันช่างเป็นเจปองสไตล์เสียจริงๆ
PiT-A-PaT
ดูซีรีย์เป็นงานประจำ ที่ทำทุกวันคืองานอดิเรก
วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2561
วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
Noble, My Love.
Noble, My Love. ซินเดอเรลล่า ฉบับหมอหมากับเจ้าชายประธานบริษัท
เคยเห็นคัทซีนสั้นๆ ในท่อ ก็เข้าใจไปว่า เป็นคัทซีนของ Secret Romance ด้วยความที่พระเอกคือบังซองฮุน (บังที่ไม่ใช่แขก 😅) และนางเอกหน้าคล้ายกันมาก เพิ่งมารู้ตอนดูจบว่าคือเมมเบอร์ของ Rainbow คิมแจคยอง
เนื้อเรื่องเริ่มตามสูตรสำเร็จคือ อีคังฮุน (ซองฮุน) ceo หนุ่มหล่อไฟแรง ขึ้นแท่นผู้บริหารตั้งแต่อายุยังน้อย เก่งรอบด้าน แต่มีบุคลิกเย็นชา และไม่สนใจคนรอบข้าง กับสัตวแพทย์สาวชายุนซอ (คิมแจคยอง) ลูกสาวเกษตรกรที่ดิ้นร้นหาเลี้ยงตัวเอง ด้วยการเปิดคลินิกรักษาสัตว์เพื่อใช้หนี้ก้อนโตที่เกิดจากการศึกษาของเธอ แม้ยุนซอจะมีหนี้ท่วมหัว แต่เธอก็ไม่ได้เห็นแก่ตัว ในทางตรงกันข้ามเธอกลับมีหัวใจที่โอบอ้อมอารี และไม่คิดร้ายกับใคร
ทั้งสองคนบังเอิญมาเจอกันด้วยโชคชะตา เมื่อบริษัทของคังฮุนต้องใช้สุนัขถ่ายโฆษณา แต่เจ้าสุนัขกลับหนีออกจากสตูดิโอ เขาจึงได้ออกตามหาจนมาพบว่ามันอยู่กับยุนซอ ด้วยความเย็นชา ไม่สนใจใคร เขาจึงแสดงออกต่อสุนัขอย่างไม่แยแส สร้างความโกรธให้ยุนซอ ที่ต้องมาเจอกับคนใจร้ายอย่างเขา
เรื่องควรจะจบเพียงแค่นี้ เพราะพระ-นางดูท่าจะไม่ลงรอยกันตั้งแต่เริ่ม แต่แน่นอนว่า การพบกันครั้งแรกเป็นโชคชะตา การพบกันครั้งต่อมาจึงเป็นเรื่องของคนเขียนบท
ในคืนที่ฝนตกหนัก คังฮุนถูกลักพาตัว และโดนทำร้ายจากการพยายามต่อสู้ เขาโซซัดโซเซจนมาหยุดที่หน้าคลินิกของยุนซอ ทำให้เธอต้องตกกระไดพลอยโจน ทำการรักษาเขาอย่างช่วยไม่ได้
คังฮุนหายไปตั้งแต่เช้าตรู่ แต่ยังไม่ลืมที่จะทิ้งนามบัตรไว้ให้ยุนซอ ด้วยความคิดที่ว่า เธอช่วยชีวิตเขา เธอก็คงจะต้องการสิ่งตอบแทน
วันเวลาผ่านไปหลายวัน กลับไร้วี่แววการเรียกร้องสิ่งตอบแทนจากยุนซอ การที่เธอเงียบเฉยกลับยิ่งกระตุ้นให้เขาอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับหญิงสาวผู้ช่วยชีวิตของเขา คังฮุนแอบกลับไปที่คลินิกอีกครั้ง และบังเอิญได้เห็นเหตุการณ์ที่ทำให้เขาต้องแปลกใจ ชายุนซอ สัตวแพทย์ที่มีหนี้ท่วมหัว แต่กลับปฏิเสธที่จะทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แม้เธอจะได้รับค่าตอบแทนจากมันก็ตาม เขายังได้เสนอให้เธอเรียกร้องเงินจากเขา แต่เธอกลับต้องการเพียงค่ารักษาพยาบาลตามความเป็นจริงเท่านั้น....
ท่าทีที่ยุนซอมีต่อคังฮุน ยิ่งทำให้เขาสนใจใคร่รู้เกี่ยวกับตัวเธอมากขึ้น แต่มีหรือที่เขาจะเข้าหาเธอด้วยวิธีปกติทั่วไป สารพัดวิธีที่จะบีบบังคับให้เธอเข้าหาเขา จึงถูกนำมาใช้เพื่อให้เธอยอมจำนน และอ่อนข้อให้เขา กลายเป็นเรื่องราวโรแมนติกแกมกดขี่ทางเพศอยู่หน่อยๆ ให้ได้ตั้งคำถามระหว่างดูว่า ในฐานะที่เป็นผู้หญิง จะยอมใช้ชีวิตกับผู้ชายที่ชอบบีบให้เราทำตามใจเขาไปทุกอย่าง แบบนี้จริงๆ เหรอ?
🌟🌟 ให้พล๊อตเรื่อง ที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่ก็เชื่อว่ามีสาวๆไม่น้อยคน ที่ฝันว่าจะได้มีชีวิตแบบนี้
🌟🌟🌟 ให้นักแสดง มองว่าซองฮุนเป็นพระเอกที่ติดภาพหล่อ รวย หรู เหมือนหลุดมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ด้วยตัวบทไม่ได้มีซีนซัดอารมณ์ฮงอะไรมากมาย ก็ถือว่าแสดงให้คนดูชอบได้ล่ะ คิมแจคยอง ไม่แน่ใจว่าผกก.บรีฟให้บทเธอดูเกินๆ หรือเปล่า แอคติ้งออกไปทางการ์ตูน ก็เลยขัดใจนิดหน่อย
🌟🌟🌟 สรุปโดยรวม ด้วยความที่เป็นเวบดราม่า เวลาไม่เยอะ เลยดำเนินเรื่องเร็ว อะไรที่ดูจะยากเลยจบลงง่ายๆ ไปหมด แต่ก็พอดูได้ล่ะ
วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2561
A Poem A Day : มุมมองใหม่ของการดูซีรีย์การแพทย์
เคยอ่านรีวิวสั้นๆ แล้วตั้งใจว่าจะต้องดูซีรีย์เรื่องนี้ให้ได้ เป็นครั้งแรกที่จะเห็นบทนำของซีรีย์การแพทย์ไม่ใช่หมอ แต่เป็นนักกายภาพบำบัด และนักรังสีเทคนิค ตอนแรกเข้าใจว่า อาจจะมีการนำเคสที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ มาเป็นตัวเรียกน้ำตา และสร้างความประทับใจ แต่ซีรีย์เรื่องนี้กลับทำให้เห็นว่า เมื่อเลือกจะเสนอในมุมที่ต่างไปแล้ว... ก็ต้องต่างไปให้ถึงที่สุด
เรื่องเริ่มที่อูโบยอง (อียูบี) นักกายภาพ ลูกจ้างชั่วคราวของโรงพยาบาลใหญ่ ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ทั้งการดูแลคนไข้ให้ดี และแรงกดขี่จากรุ่นพี่ที่ทิ้งภาระงานให้เธอเกินความจำเป็น เพราะความใจดี และไม่รู้จักปฏิเสธของเธอ หลังจากทำงานได้ 2 ปี สัญญาจ้างงานกำลังจะจบลง ก็มีเหตุการณ์หลายต่อหลายครั้ง ที่ทำเหมือนว่าเธอจะได้งานต่อ แต่ก็ฝันสลายอยู่ร่ำไป ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า และชีวิตที่ว่ายากก็ยิ่งยากไปอีกเมื่อชินมินโฮ (จางดงยุน) เพื่อนนักศึกษาที่เธอเคยรักเขาข้างเดียว ได้มาฝึกงานในสถานที่เดียวกับเธอ
เมื่อชีวิตที่ไม่เคยสบาย กลับยิ่งต้องมาลำบากมากขึ้นเมื่อคนเคยรักกลับเข้ามาสร้างความวุ่นวายในชีวิต พระเจ้าก็มักจะประทานพรอันแสนวิเศษมาให้เสมอ การมาถึงของ เยแจวุค (อีจุนฮยอก) นักกายภาพหนุ่มหล่อ บุคลิกเย็นชา แต่เก่งจนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ถ้าเป็นบ้านเราก็คงเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย เยแจวุค ที่ดูเย็นชาแต่กลับเป็นคนที่พินิจพิเคราะห์ทุกสิ่งรอบตัว และเห็นถึงหัวใจที่ดีงามของอูโบยอง
ว่ากันว่า เราจะไม่เห็นคุณค่าของสิ่งนั้น จนกว่าจะเสียมันไปจริงๆ การมีอยู่ของเยแจวุคในชีวิตของอูโบยอง จึงทำให้ชินมินโฮได้รู้ว่า แท้จริงหัวใจตัวเองต้องการอะไร จึงก่อเกิดเป็นเรื่องราวรักสามเส้า ที่มีเบื้องหลังเป็นการทำงานของนักกายภาพบำบัด ในฐานะอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญของทีมสุขภาพ
ซีรีย์ไม่ได้ใช้ภาพหวาดเสียว หรือคนไข้ที่ดูแย่ๆ แต่กลับรอดมาราวกับปาฏิหาริย์ด้วยฝีมือหมอเทวดา แต่เป็นการถ่ายทอดความจริง ชีวิตบนความหวัง ชีวิตที่ยังต้องดำเนินต่อไปในวันที่ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม เมื่อสูญเสียขาที่รักไปพร้อมกับความฝัน เมื่อเสียคนที่รักไปอย่างไม่คาดฝัน บุคลากรทางการแพทย์กลุ่มนี้ ได้เข้ามามีบทบาทอย่างไรบ้าง โดยมีบทกลอนที่บ่งบอกถึงเรื่องราวในแต่ละตอน เป็นตัวสรุปเหตุการณ์นั้นๆ
จริงอยู่ที่ว่านักกายภาพบำบัด อาจไม่ใช่ผู้ช่วยชีวิต ไม่ใช่คนที่ช่วยคนไข้ให้พ้นวิกฤต แต่ซีรีย์เรื่องนี้ทำให้เห็นว่า ยังมีอีกอาชีพหนึ่งในทีมสุขภาพ ที่มีหน้าที่ให้ความหวัง และช่วยสานฝันที่ริบหรี่ของคนไข้ เป็นอีกหนึ่งสมาชิกในทีมสุขภาพที่ก็เป็นพระเอก-นางเอกในการรักษาและเยียวยาคนไข้ของตัวเอง
🌟🌟🌟🌟 ให้เนื้อเรื่อง ไม่หวือหวา ดูได้เรื่อยๆ แต่ประทับใจ Ost. เยอะมากกกก เพราะทุกเพลง แต่จำไม่ได้เลยสักเพลง อีจุนฮยอกชวนละเมอเพ้อพกมาก ถ้าเป็นยูบีคงละลายและระเหยเป็นไอ 😅
วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2561
Just Between Lovers. ลับเฉพาะคนรู้ใจ
ตั้งใจว่าจะต้องดูเรื่องนี้ให้ได้ ตอนที่รู้ว่าจุนโฮแสดง ไม่ได้เป็นแฟนคลับ 2pm นะ แต่ไม่รู้ว่าทำไมพอเห็นหน้าจุนโฮบวกกับชื่อเรื่องไปด้วย เลยมโนไปเองแบบไม่ดูทีเซอร์ว่า Just Between Lovers จะเป็นซีรีย์รักใสๆ หัวใจเราผูกกัน... แหมมมมมันช่างเข้าทางสายหวานตาโตซะจริงๆ
แต่เอ๊ะ...เปิดมาตอนแรก รักหวานแหววที่ไหน? ทำไมนางเอกดูทุกข์ตรมโศกเศร้าได้ขนาดนี้เนี่ย?!
*สปอล์ยนะเออ*
เริ่มเรื่องย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน ครั้งที่มีเหตุการณ์ห้างสรรพสินค้าชื่อดังถล่ม และคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 48 ราย ด้วยวิถีชีวิต ความบังเอิญ ความตั้งใจ เหตุการณ์นี้ได้แปรเปลี่ยนชีวิตของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนไปตลอดกาล
ฮามุนซู (วอนจินอา) เด็กสาววัยแรกแย้ม สดใสร่าเริง มีน้องสาวเป็นดาราเด็กที่กำลังมีชื่อเสียง เธอถูกผู้เป็นแม่ใช้ให้เธอไปทำหน้าที่ดูแลน้องสาว ที่ต้องไปถ่ายแบบที่ห้างสรรพสินค้า ทั้งที่เธอมีนัดกับรักแรกของเธออยู่ก่อนแล้ว แต่ไม่อาจหลีกเลี่ยงคำสั่งของแม่ได้ มุนซูจึงจำต้องไปกับน้องสาว แต่ก็ยังแอบส่งข้อความไปหารักแรกของเธอ ให้มาพบกันที่ห้างสรรพสินค้า
อีคังดู (จุนโฮ 2pm) เด็กหนุ่มนักฟุตบอลอนาคตไกล ผู้มีความฝันว่าสักวัน เขาจะต้องได้เป็นนักฟุตบอลทีมชาติ มีพ่อผู้เป็นหัวหน้าคนงานที่กำลังต่อเติมห้างสรรพสินค้า เพื่อจะรอพ่อเลิกงานและกลับบ้านพร้อมกัน เขาจึงต้องไปรอพ่อที่ทำงาน
ซอจูวอน (อีคิวู) สถาปนิกหนุ่มหล่อไฟแรง ลูกชายของสถาปนิกผู้ดูแลการก่อสร้าง-ต่อเติมห้างสรรพสินค้า ติดตามพ่อเพื่อไปช่วยงาน
ชะตาชีวิตที่ต่างที่มา แต่กลับมาเผชิญชะตากรรมเดียวกัน ในเหตุการณ์ห้างสรรพสินค้าถล่ม มุนซูเสียน้องสาว คังดูเสียพ่อ จูวอนและพ่อรอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้น แต่ด้วยความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์สูญเสียอันยิ่งใหญ่ พ่อของจูวอนจึงแขวนคอตัวเองและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
มุนซูใช้ชีวิตหลังจากเหตุการณ์นั้น ด้วยความทรงจำอันเลือนลาง เธอจำได้เพียงว่ามีเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่กับเธอ ตลอดเวลาที่ทีมกู้ภัยกำลังค้นหาผู้รอดชีวิต และความผิดที่ติดค้างในใจ ว่าเป็นเพราะเธอดูแลน้องสาวไม่ดี ทำให้เธอต้องจบชีวิตลง และแม่กับพ่อของเธอต้องแยกกันหยุด ส่งผลมาถึงแม่กลายเป็นคนติดเหล้า ผูกตัวเองอยู่กับความทุกข์อันเกิดมาจากการสูญเสีย เธอเรียนจบสถาปัตย์และรับจ้างทำโมเดลงานโครงสร้าง และด้วยความฉลาดและรอบคอบของเธอ ทำให้ซอจูวอน ประธานบริษัทรับเหมาก่อสร้างเห็นถึงความสามารถของเธอ จึงได้ชักชวนให้เธอมาทำงานด้วย
คังดู สูญเสียความสามารถในการเล่นฟุตบอลไป เพราะอาการบาดเจ็บจากตึกถล่ม ทำให้ขาข้างซ้ายของเขาผิดรูป และยังคงทิ้งอาการเจ็บปวดไว้ย้ำเตือนเขาอยู่เสมอ หลังจากพ่อจากไป แม่ของเขาก็ล้มป่วยจนเสียชีวิต พร้อมกับทิ้งภาระในการดูแลน้องสาวเพียงคนเดียวไว้ให้กับเขา คังดูกัดฟันส่งน้องสาวเรียนแพทย์ พร้อมกับหนี้ก้อนโตที่เขาไม่อาจจะใช้หมดได้ในชั่วชีวิตนี้ เขาใช้ชีวิตดิ้นร้นหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวันๆ แลกกับเงินเพียงน้อยนิดเพื่อใช้หนี้ พร้อมกับความทรงจำอันเลวร้ายที่ไม่อาจลืม
เมื่อคนสูญเสียทั้ง 3 คนมาเจอกัน ว่ากันว่าความเจ็บปวดของคนเราไม่เท่ากัน แม้จะเป็นเรื่องเดียวกัน แต่คงจะไม่มีใครเข้าใจกันและกันไปมากกว่า คนที่เจอเหตุการณ์เดียวกัน สูญเสียคนที่รักจากเหตุเดียวกัน เป็นที่มาของคำว่าหัวอกเดียวกัน
มุนซูมาเป็นสถาปนิกผู้ดูแลสวนอนุสรณ์สถาน โดยมีคังดูที่ได้รับมอบหมายจากจูวอน ให้เป็นผู้ดูแลไซต์ก่อสร้าง ทั้งคู่ได้แบ่งปันเรื่องราว ความเจ็บปวดจากการสูญเสีย และความทรงจำของมุนซูเกี่ยวกับเด็กผู้ชายที่ช่วยเหลือเธอไว้ ได้ค่อยๆย้อนกลับคืนมาอีกครั้ง ความเห็นอกเห็นใจ ก่อตัวเป็นความรักอย่างช้าๆ ในขณะเดียวกันจูวอนก็รู้สึกว่ามุนซูพิเศษสำหรับเขา
เรื่องราวความเจ็บปวดจากการสูญเสีย ความอิ่มเอมใจที่ได้เป็นผู้ให้ และความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์ จึงได้ก่อเกิดขึ้น โดยมีคังดูและมุนซูมาเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราว
🌼🌼🌼🌼
ส่วนตัวก็คิดว่ามันเมโล่เมโล ดูไปก็ตบยุงไปบ้าง แต่แบบมันก็ดีอ่ะ ไม่มีตัวร้ายมาเบ้ปาก เหลือกตา แล้วแบบจุนโฮคือไม่ได้หล่อเว่อร์ เอามายีๆผมหน่อย ก็เชื่อได้อยู่ว่านี่มันกรรมกร จนไม่มีจะกิน จินอาน่ารักดี ไม่สวยหวือหวา แต่มองแล้วเพลินดี ชอบที่พระเอกเจียมตัวเบาๆ แบบไม่เปิดก่อน แต่ก็ไม่หนี นางเอกก็รุกได้คิ้วดี ไม่ดูน่ารำคาญ ส่วนพระรอง โหยยยยย หล่อจริง ดูผู้ดีมาก มาแบบรัศมีพญานกจับแน่นอน หล่อขนาดนี้ ดีขนาดนี้ สมหวังให้ถีบเลย 😅 แล้วแบบแสนดี แต่ไม่โง่ไง ไม่ใช่ทำดีไปตะพึดตะพือ ดีแล้วเขาเฉย เออ...นิ่งบ้างก็ได้ แล้วก็แบบไม่ได้หน้ามืดตามัว ใช้สมองทำงานไปด้วย
พอดูจบ รู้สึกว่า จุนโฮเก่งนะ แอคติ้งดีมาก คือบทคังดูเนี่ย เล่นไม่ดีกลายเป็นขี้เก๊ก น่ารำคาญนะ แต่จุนโฮเล่นได้แมนๆ เลย จินอานี่ใสกริ๊ง ใหม่สุด แต่แบบเอาอยู่มากๆ กะบทอมทุกข์แบกโลกแต่ไม่บอกใคร มันใช่อ่ะ...
⭐⭐⭐ ให้เนื้อเรื่อง - การดำเนินเรื่อง ออกจะเนือยๆหน่อย แต่ด้วยสไตล์เมโล มันก็ต้องแบบนี้ เล่นกะอารมณ์ ความรู้สึกมากกว่าจะทายปริศนาคลายปม
⭐⭐⭐⭐ ให้นักแสดง เป๊ะเว่อร์ ~ นี่ตั้งใจล่ะ จุนโฮ เรื่องหน้าดูแน่นอน
จบเรื่องนี้ได้ข้อคิดหลายอย่างมาก
- เรามักตัดสินคนที่นิ่งว่าเขาไม่รู้สึกรู้สาอะไร และมักเทความสนใจไปที่คนที่คร่ำครวญร้องไห้ แต่ใครล่ะจะรู้ว่าข้างในใจของแต่ละคน แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร "คนที่ร้องเสียงดัง ไม่ได้หมายความว่าเจ็บปวดกว่า"
- อย่ามองว่าตัวเองเป็นฝ่ายให้เพียงฝ่ายเดียว ในความที่เราให้ไป มันต้องมีอะไรตอบแทนกลับมาบ้างสิ แต่เราอาจไม่ทันได้คิด มันอาจจะเป็นความสุขที่ได้ให้ หรือมันอาจจะเป็นแค่โอกาสให้เราได้เห็นเขามีชีวิตอยู่ต่อ
- ความรักไม่ชนะทุกสิ่ง ความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจต่างหากล่ะ ที่จะพาให้เราผ่านทุกอุปสรรคไป
วันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2560
The King In Love.
The King In Love.
ตั้งใจว่าจะดูซับไทยสองตอนสุดท้ายให้จบ แล้วค่อยพูดถึง~ แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังคงทิ้งไว้ที่ซับไทยสองตอนสุดท้าย
왕은 사랑한다 หรือ The King In Love เป็นเรื่องราวก่อนขึ้นสู่บัลลังค์ของพระเจ้าชุงซอน พระราชาลำดับที่ 26 แห่งราชวงค์โครยอ แต่เป็นพระราชาลูกครึ่งหยวน(มองโกล)-โครยอ(เกาหลี) พระองค์แรกในประวัติศาสตร์เกาหลี ด้วยชื่อเรื่องที่จั่วหัวมาว่า เป็นเรื่องราวการตกหลุมรักของพระราชา งานนี้เชื่อหัวว่า 100 ทั้ง 100 มั่นใจว่าพระเอกของเรื่องคือพระเจ้าชุงซอน และนางเอกของเรื่องต้องมาเป็นคนที่พระองค์อินเลิฟด้วยอย่างแน่นอน ~ ลองดูก่อนดีมั๊ย 😅
เริ่มเรื่องด้วยความสัมพันธ์ของวังวอน (พระเจ้าชุงซอน ขณะเป็นองค์รัชทายาท) กับพระเจ้าชุงยอล พระบิดา ที่ดูจะไม่ลงรอยกันเท่าไหร่ แน่นอนว่าคนดูที่ไม่รู้เรื่องประวัติศาสตร์ย่อมแปลกใจแน่นอนว่า ก็ในเมื่อพ่อไม่รัก แล้ววังวอนได้ตำแหน่งรัชทายาทมาได้ยังไง ถ้ารอเฉลย(แบบไม่ละเอียดนัก)ที่มีให้เห็นในช่วงต้นค่อนไปกลางเรื่องไม่ไหว ก็คงต้องไปหาประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิมองโกล ในช่วงการปกครองของกุบไล ข่าน ปฐมกษัตริย์ผู้สถาปนาราชวงค์หยวน ผู้มีศักดิ์เป็นพระอัยกา(ตา)ของวังวอน มาอ่านกันก็จะได้อินกันไปอีก
นอกจากความสัมพันธ์อันไม่ลงรอยของพ่อกับลูกแล้ว เนื้อเรื่องจะนำพาเราดำดิ่งไปกับมิตรภาพที่ล้ำลึกระดับยอมตายแทนกันได้ของวังวอน(อิมชีวาน) กับวังริน(ฮงจงฮยอน) ผู้สืบเชื้อสายเลือดบริสุทธิ์แห่งโครยอ มีศักดิ์เป็นพระญาติ และเป็นแคนดิเดทคนสำคัญที่เสด็จแม่ของวังวอน หวั่นใจทุกครั้งเมื่อเห็นการมีอยู่ของวังริน ที่ไม่ต่างอะไรกับหอกข้างแคร่ พร้อมจะปล้นบัลลังค์ได้ทุกเมื่อ หากวังรินหลงมัวเมาในอำนาจ และเพราะเหตุนี้ ทำให้ได้เห็นโมเม้นที่เหมือนแม่ผัวผู้เกลียดชังลูกสะใภ้ กับลูกสะใภ้ผู้น่าสงสาร อยู่บ่อยๆ ตั้งแต่ต้นจนเกือบจะจบเรื่อง
อ่านมาจนถึงตอนนี้ นี่หมายความว่านางเอกไม่จำเป็นใช่มั๊ย ~ 😅 แต่แน่นอน เพื่อนรักมักต้องหักเหลี่ยมโหด ตัวละครอึนซาน(ยุนอา SNSD) จึงจำเป็นต้องมีอยู่ในเรื่องราว กลายเป็นที่มาของเรื่องราว การก้าวขึ้นสู่บัลลังค์ของพระเจ้าชุงซอน อันมีความรัก มิตรภาพ และการสูญเสียเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อจะหล่อหลอมให้รัชทายาทวังวอนกลายเป็นกษัตริย์ที่พระปรีชาที่สุดพระองค์หนึ่งของประวัติศาสตร์เกาหลี
***ตั้งใจว่าจะไม่สปอยล์เลย
นี่คือการดูผลงานการแสดงของอิมชีวาน ไอดอลนักแสดงที่ได้รับการยอมรับในฐานะนักแสดง เป็นครั้งแรก (ไอดอลเกาหลีหลายคนที่รับงานแสดง แต่ยังไม่สามารถก้าวผ่านอคติของผู้ชมงานแสดงได้ แต่อิมชีวานคือไอดอล ที่ได้รับการยอมรับอย่างไม่มีข้อกังขา หมายความว่า การันตรีได้เลยว่า ฝีมือการแสดงเฉียบจริง) ชีวานสวมบทบาทรัชทายาทวังวอนได้อย่างไร้ที่ติ การมีบุคลิกแบบสองขั้ว ร่าเริง สดใส ขี้เล่น แบบฮันชอล และ รักแรง เกลียดแรง แบบวังวอน ทำให้ตัวละครตัวนี้ เหมาะมากที่จะเอามาทำซีรีย์ยาว 40-50 ตอน ให้ผู้ชมได้เห็นถึงเกมการเมืองที่วังวอนมีทั้งลูกล่อลูกชน และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่วังวอนทำได้ดี ทั้งในแง่การเสียสละ การเอาประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง แต่ก็ยังทันเกมฝ่ายตรงข้าม บังเอิญว่าในส่วนนี้ด้วยจำนวนตอนอันน้อยนิด ทำให้ตัวเอกของเรื่องตัวนี้ ไม่ได้แสดงให้เห็นชัดเจน(หากไม่ตั้งใจมอง) และที่คนเขียนบทลืมไปเสียสนิทก็คงเป็น ความเจ็บปวดรวดร้าวของวังวอน ที่เกิดจากการเสียสละเพื่อความถูกต้อง ทำให้ตัวละครตัวนี้ทำได้แค่สวยงาม แต่ยังไม่ถึงขั้นงดงาม
คาแรคเตอร์วังริน ที่รับบทโดยฮงจงฮยอน เป็นอีกบุคคลในประวัติศาสตร์ที่มีอยู่จริง แต่ถูกลบเรื่องราว/ไม่ได้รับการบันทึกใดๆ ไว้ในประวัติศาสตร์ อันเป็นที่มาให้คนเขียนบท นำมาผูกเรื่องราวให้เป็นดั่งนิยายต้นฉบับ วังรินถูกสร้างคาแรคเตอร์มาแบบพระรองผู้แสนดี แบบที่เราจะเดากันได้ว่า หล่อ ดี ไร้ที่ติ นางเอกไม่เอาแน่นอน ~ ติดตามผลงานของฮงจงมาตลอด แว้บแรกที่เห็นฮงจงใน vampire idol คือ ผู้ชายคนนี้หล่อมาก หล่อแบบเกินจะเป็นแค่นายแบบ หล่อระดับนี้ต้องพระเอกเท่านั้น แต่พอเห็นแอคติ้งแล้ว ก็คิดได้ว่าคงต้องฝึกอีกเยอะเลย แต่การรับบทวังรินในครั้งนี้ เรียกว่าเป็นโอกาสที่ดีงามมากของฮงจง เพราะบทนี้นอกจากจะเรียกเสียงกรี๊ดได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังได้เห็นพัฒนาการด้านการแสดงที่ดีมากๆ ของฮงจง
ต้นเรื่องรู้สึกว่าบทวังริน โคตรจะเท่จริงๆ เห็นแววเสียสละแมนๆ มาแต่ไกล แต่แน่นอนว่า เราจะต้องรับได้ แม้จะเสียน้ำตาให้ แต่เราจะไม่ลืมบทนี้ และก็ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น ถ้าคนเขียนบทไม่เลือกที่จะทำลายความเท่ ความนิ่งของวังรินในช่วงท้ายเรื่อง แถมยังจะทำลายก็ยังใจไม่ถึง ทุบบทนี้จนบิ่นไปแล้ว ก็นึกขึ้นมาได้ว่าจะดูไม่ดี เอาปูนมาฉาบเสียใหม่ แต่ก็ทิ้งรอยปะที่ไม่ประณีตไว้ให้คนดูอย่างเราต้องสบถ และยังไม่พอ ยังจะหาความชอบธรรมให้กับรอยบิ่นนี้ด้วยการโยนฆ้อนไปใส่มือวังวอน นับว่าเป็นการทำร้ายตัวละครที่เราไม่โอเคเอาเสียเลย
ว่ากันว่าละครที่ดีคือละครที่ถูกใจเรา สำหรับ The King In Love ก็คงจะเป็นเช่นนั้น สำหรับเรานี่คือละครต้นดี ปลายงง งานโปรดักชั่นประณีต แต่ดูแล้วไม่อิ่ม มีการโปรยคำ ทิ้งนั่นนี่ให้สงสัย แต่กลับไม่ได้รับการเฉลยข้อสงสัย หรือความหมายที่แท้จริงของคำเหล่านั้นเลย มีบางช่วงบางตอนที่ยืดยาดเสียจนสงสัยว่ามีนัยยะอะไรแอบแฝงมั๊ย แต่พอบทที่ควรจะให้ความสำคัญ การชิงไหว ชิงพริบของตัวละคร ดันรีบตัดต่อลวกๆ ยังกะเมียโทรตามให้รีบกลับบ้าน และจุดโฟกัสของเรื่องที่แกว่งไปมา จนไม่แน่ใจว่าจะโฟกัสที่จุดไหนกันแน่ เพราะไม่สุดสักทาง
ตั้งใจว่าจะดูซับไทยสองตอนสุดท้ายให้จบ แล้วค่อยพูดถึง~ แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังคงทิ้งไว้ที่ซับไทยสองตอนสุดท้าย
เริ่มเรื่องด้วยความสัมพันธ์ของวังวอน (พระเจ้าชุงซอน ขณะเป็นองค์รัชทายาท) กับพระเจ้าชุงยอล พระบิดา ที่ดูจะไม่ลงรอยกันเท่าไหร่ แน่นอนว่าคนดูที่ไม่รู้เรื่องประวัติศาสตร์ย่อมแปลกใจแน่นอนว่า ก็ในเมื่อพ่อไม่รัก แล้ววังวอนได้ตำแหน่งรัชทายาทมาได้ยังไง ถ้ารอเฉลย(แบบไม่ละเอียดนัก)ที่มีให้เห็นในช่วงต้นค่อนไปกลางเรื่องไม่ไหว ก็คงต้องไปหาประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิมองโกล ในช่วงการปกครองของกุบไล ข่าน ปฐมกษัตริย์ผู้สถาปนาราชวงค์หยวน ผู้มีศักดิ์เป็นพระอัยกา(ตา)ของวังวอน มาอ่านกันก็จะได้อินกันไปอีก
นอกจากความสัมพันธ์อันไม่ลงรอยของพ่อกับลูกแล้ว เนื้อเรื่องจะนำพาเราดำดิ่งไปกับมิตรภาพที่ล้ำลึกระดับยอมตายแทนกันได้ของวังวอน(อิมชีวาน) กับวังริน(ฮงจงฮยอน) ผู้สืบเชื้อสายเลือดบริสุทธิ์แห่งโครยอ มีศักดิ์เป็นพระญาติ และเป็นแคนดิเดทคนสำคัญที่เสด็จแม่ของวังวอน หวั่นใจทุกครั้งเมื่อเห็นการมีอยู่ของวังริน ที่ไม่ต่างอะไรกับหอกข้างแคร่ พร้อมจะปล้นบัลลังค์ได้ทุกเมื่อ หากวังรินหลงมัวเมาในอำนาจ และเพราะเหตุนี้ ทำให้ได้เห็นโมเม้นที่เหมือนแม่ผัวผู้เกลียดชังลูกสะใภ้ กับลูกสะใภ้ผู้น่าสงสาร อยู่บ่อยๆ ตั้งแต่ต้นจนเกือบจะจบเรื่อง
อ่านมาจนถึงตอนนี้ นี่หมายความว่านางเอกไม่จำเป็นใช่มั๊ย ~ 😅 แต่แน่นอน เพื่อนรักมักต้องหักเหลี่ยมโหด ตัวละครอึนซาน(ยุนอา SNSD) จึงจำเป็นต้องมีอยู่ในเรื่องราว กลายเป็นที่มาของเรื่องราว การก้าวขึ้นสู่บัลลังค์ของพระเจ้าชุงซอน อันมีความรัก มิตรภาพ และการสูญเสียเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อจะหล่อหลอมให้รัชทายาทวังวอนกลายเป็นกษัตริย์ที่พระปรีชาที่สุดพระองค์หนึ่งของประวัติศาสตร์เกาหลี
***ตั้งใจว่าจะไม่สปอยล์เลย
นี่คือการดูผลงานการแสดงของอิมชีวาน ไอดอลนักแสดงที่ได้รับการยอมรับในฐานะนักแสดง เป็นครั้งแรก (ไอดอลเกาหลีหลายคนที่รับงานแสดง แต่ยังไม่สามารถก้าวผ่านอคติของผู้ชมงานแสดงได้ แต่อิมชีวานคือไอดอล ที่ได้รับการยอมรับอย่างไม่มีข้อกังขา หมายความว่า การันตรีได้เลยว่า ฝีมือการแสดงเฉียบจริง) ชีวานสวมบทบาทรัชทายาทวังวอนได้อย่างไร้ที่ติ การมีบุคลิกแบบสองขั้ว ร่าเริง สดใส ขี้เล่น แบบฮันชอล และ รักแรง เกลียดแรง แบบวังวอน ทำให้ตัวละครตัวนี้ เหมาะมากที่จะเอามาทำซีรีย์ยาว 40-50 ตอน ให้ผู้ชมได้เห็นถึงเกมการเมืองที่วังวอนมีทั้งลูกล่อลูกชน และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่วังวอนทำได้ดี ทั้งในแง่การเสียสละ การเอาประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง แต่ก็ยังทันเกมฝ่ายตรงข้าม บังเอิญว่าในส่วนนี้ด้วยจำนวนตอนอันน้อยนิด ทำให้ตัวเอกของเรื่องตัวนี้ ไม่ได้แสดงให้เห็นชัดเจน(หากไม่ตั้งใจมอง) และที่คนเขียนบทลืมไปเสียสนิทก็คงเป็น ความเจ็บปวดรวดร้าวของวังวอน ที่เกิดจากการเสียสละเพื่อความถูกต้อง ทำให้ตัวละครตัวนี้ทำได้แค่สวยงาม แต่ยังไม่ถึงขั้นงดงาม
คาแรคเตอร์วังริน ที่รับบทโดยฮงจงฮยอน เป็นอีกบุคคลในประวัติศาสตร์ที่มีอยู่จริง แต่ถูกลบเรื่องราว/ไม่ได้รับการบันทึกใดๆ ไว้ในประวัติศาสตร์ อันเป็นที่มาให้คนเขียนบท นำมาผูกเรื่องราวให้เป็นดั่งนิยายต้นฉบับ วังรินถูกสร้างคาแรคเตอร์มาแบบพระรองผู้แสนดี แบบที่เราจะเดากันได้ว่า หล่อ ดี ไร้ที่ติ นางเอกไม่เอาแน่นอน ~ ติดตามผลงานของฮงจงมาตลอด แว้บแรกที่เห็นฮงจงใน vampire idol คือ ผู้ชายคนนี้หล่อมาก หล่อแบบเกินจะเป็นแค่นายแบบ หล่อระดับนี้ต้องพระเอกเท่านั้น แต่พอเห็นแอคติ้งแล้ว ก็คิดได้ว่าคงต้องฝึกอีกเยอะเลย แต่การรับบทวังรินในครั้งนี้ เรียกว่าเป็นโอกาสที่ดีงามมากของฮงจง เพราะบทนี้นอกจากจะเรียกเสียงกรี๊ดได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังได้เห็นพัฒนาการด้านการแสดงที่ดีมากๆ ของฮงจง
ต้นเรื่องรู้สึกว่าบทวังริน โคตรจะเท่จริงๆ เห็นแววเสียสละแมนๆ มาแต่ไกล แต่แน่นอนว่า เราจะต้องรับได้ แม้จะเสียน้ำตาให้ แต่เราจะไม่ลืมบทนี้ และก็ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น ถ้าคนเขียนบทไม่เลือกที่จะทำลายความเท่ ความนิ่งของวังรินในช่วงท้ายเรื่อง แถมยังจะทำลายก็ยังใจไม่ถึง ทุบบทนี้จนบิ่นไปแล้ว ก็นึกขึ้นมาได้ว่าจะดูไม่ดี เอาปูนมาฉาบเสียใหม่ แต่ก็ทิ้งรอยปะที่ไม่ประณีตไว้ให้คนดูอย่างเราต้องสบถ และยังไม่พอ ยังจะหาความชอบธรรมให้กับรอยบิ่นนี้ด้วยการโยนฆ้อนไปใส่มือวังวอน นับว่าเป็นการทำร้ายตัวละครที่เราไม่โอเคเอาเสียเลย
ว่ากันว่าละครที่ดีคือละครที่ถูกใจเรา สำหรับ The King In Love ก็คงจะเป็นเช่นนั้น สำหรับเรานี่คือละครต้นดี ปลายงง งานโปรดักชั่นประณีต แต่ดูแล้วไม่อิ่ม มีการโปรยคำ ทิ้งนั่นนี่ให้สงสัย แต่กลับไม่ได้รับการเฉลยข้อสงสัย หรือความหมายที่แท้จริงของคำเหล่านั้นเลย มีบางช่วงบางตอนที่ยืดยาดเสียจนสงสัยว่ามีนัยยะอะไรแอบแฝงมั๊ย แต่พอบทที่ควรจะให้ความสำคัญ การชิงไหว ชิงพริบของตัวละคร ดันรีบตัดต่อลวกๆ ยังกะเมียโทรตามให้รีบกลับบ้าน และจุดโฟกัสของเรื่องที่แกว่งไปมา จนไม่แน่ใจว่าจะโฟกัสที่จุดไหนกันแน่ เพราะไม่สุดสักทาง
วันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2560
Weightlifting Fairy Kim Bok Joo.
คนจะงาม งามที่ใจ ใช่ใบหน้า
ทั้งที่ดูเรื่องนี้จบไปตั้งแต่ยังออนแอร์ แต่ก็ไม่มีเวลาได้พูดถึงสักที ความตั้งใจแรกที่ดูคือ เป็นละครฆ่าเวลา ระหว่างรอดูโดบงซุน ที่ยังไม่ออกอากาศในตอนนั้น อาจจะดูเป็นละครกะโหลกกะลา ถ้าวัดกันจากเรตติ้ง แต่นี่คือละครน้ำดี แบบที่หวังจะได้เห็นละครจรรโลงสังคมแบบนี้จากช่องทีวีของไทยบ้าง
คิมบ๊กจู (อีซองคยอง) สาวน้อยวัยแรกรุ่น แต่ด้วยความสามารถ และรูปร่างอันใหญ่โตของเธอ ทำให้เธอไม่ได้ใช้ชีวิตแบบที่สาวๆ ทั่วไปจะเป็น บ๊กจูเป็นนักยกน้ำหนักดาวรุ่ง ที่ชีวิตวันๆ หมดไปกับการฝึกซ้อมและสนุกสนานกับเพื่อนที่เป็นนักยกน้ำหนักของเธอ
จองจุนยอง (นัมจูฮยอก) นักกีฬาว่ายน้ำดาวรุ่งของชมรม ชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความสามารถ และรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหลา ระดับที่เรียกได้ว่าเป็นเจ้าชายนักว่ายน้ำ
รีวิวแค่คาแรคเตอร์ของนักแสดงนำก็พาลให้คิดไปว่า นี่คงจะเป็นละครพล๊อตเก่าๆ ที่ลูกเป็ดขี้เหร่ไปหลงรักเจ้าชาย แล้วพยายามทำทุกอย่างให้เจ้าชายหันมามอง แต่ขอบอกว่า ~ ไม่ใช่เลยยยยยยย
ในขณะที่สังคมเราเคยชินกับสาวน้อยที่หน้าตาธรรมดา แล้วหวังว่าสักวันจะมีเจ้าชายพร้อมราชรถมาเกย แต่ละครเรื่องนี้กลับชี้ให้เห็นถึงความดีงามในจิตใจของบ๊กจู หญิงสาวหน้าตาธรรมดา รูปร่างห่างไกลจากเทรนด์นิยม กับจุนยอง ชายหนุ่มผู้หล่อเหลา ราวกับเจ้าชาย บุคลิกดูฉาบฉวย แต่กลับมองลึกไปถึงจิตใจที่ดีงามของบ๊กจู จนเขาไม่อาจปล่อยให้เธอต้องหลุดมือไป
บ๊กจูอาจจะมีความฝันเหมือนกับเด็กสาวทั่วไป นั่นก็คือการได้เป็นที่รักของใครสักคน ทำให้เธอตกหลุมรักจองแจอี ญาติผู้พี่ของจุนยอง และพยายามจะทำให้เขาประทับใจ โดยมีจุนยองคอยช่วยเหลือ ทั้งที่เธอเป็นความทรงจำที่เขาไม่อาจลืมมาตั้งแต่เด็ก
แน่นอนว่าพล๊อตยังคงหนีไม่พ้นสาวน้อยธรรมดาที่ตกหลุมรักเจ้าชายผู้เลิศเลอ แต่ในคราวนี้ แจอี เจ้าชายผู้เลิศเลอของบ๊กจู ไม่ได้ตอบรับความรู้สึกของเธอ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้มองข้ามเธอไป เพียงแต่เธอไม่ใช่สำหรับเขา การปฏิเสธความรู้สึกที่บ๊กจูมีต่อเขา อาจจะเจ็บปวด แต่ไม่เจ็บใจ
ในขณะที่เนื้อเรื่องปูมาว่าบ๊กจูคือ นักกีฬายกน้ำหนัก รูปร่างใหญ่โต หน้าตาธรรมดา แต่เรากลับไม่เคยได้ยินคำว่า "อ้วน" "ไม่สวย" หรือคำอื่นๆ ที่ใช้เปรียบเปรยผู้หญิงร่างใหญ่ จากปากตัวละครรอบตัวของบ๊กจู
สิ่งที่คนเขียนบทพยายามจะบอกกับสังคม น่าจะหมายถึงการเคารพในปัจเจกบุคคล ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เลิศเลอมาจากที่ไหน คุณก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินคนอื่นจากรูปร่าง หน้าตา หากแต่คุณค่าของคนอยู่ที่จิตใจของคนนั้นต่างหาก
จองจุนยอง เจ้าชายนักว่ายน้ำ หล่อเลือกได้ แต่เขาก็มั่นคงกับสาวน้อยร่างใหญ่ที่เคยช่วยเขาไว้ในวัยเด็ก รูปร่างหน้าตาไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่หัวใจที่งดงามของบ๊กจูต่างหากที่สำคัญต่อเขา
เรื่องราวความรัก ความฝัน โดยมีโรงเรียนกีฬาเป็นพื้นหลังของเรื่อง จึงทำให้ละครเรื่องนี้สร้างรอยยิ้ม และทำให้ได้รับเสียงชื่นชมมากมาย จัดว่าเป็นละครฟีลกู๊ดอีกเรื่องที่ดีต่อใจจริงๆ
ใครยังไม่ดู ก็ควรดู เรื่องนี้พระ-นางอินเลิฟกันนอกจอด้วยนะเออ.....
วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
The Shining Eunsoo / Still Loving You.
The Shining Eunsoo ~ น้องมากับคำว่าใช่
ถึงจะเป็นคอซีรีย์เกาหลี แต่กลับไม่อดทนกับละครที่มีความยาวเกินระดับ 24 ตอนเอาเสียเลย และก็เป็นธรรมชาติของละครหัวค่ำวันเสาร์-อาทิตย์ของเกาหลี ที่ความยาวต้องไม่ต่ำกว่า 50 ตอน แค่ 30 ตอนยังต้องทำใจ แต่คราวนี้เล่นของยาวกันเลยทีเดียว จัดไป 125 ตอน
😅 ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเหมือนกัน

The Shining Eunsoo หรือ Still Loving You เป็นเรื่องราวของอึนซู (อียองอึน) หญิงสาวผู้มีความใฝ่ฝันอยากเป็นครูที่ดี และในขณะที่ความฝันของเธอกำลังจะเริ่มต้น ชีวิตรอบตัวทุกอย่างกำลังไปได้ดี คนรักที่รักกันมาจนความรักสุกงอมได้ตัดสินใจขอเธอแต่งงาน หน้าที่การงานก็มั่นคง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับกลายเป็นปราสาททรายที่ทลายลงตรงหน้า เมื่อเธอได้พบกับบิทนา (พัคฮานา) นักเรียนสาวสวย ฐานะดี ผู้เย่อหยิ่ง ที่เดินเข้ามาในชีวิตเธอ ราวกับคลื่นที่มาซัดสาดปราสาททรายสวยหรูของเธอ ให้พลังทลายลงตรงหน้า
อึนซูสูญเสียอาชีพที่เธอรัก สูญเสียคนรักที่จากลาเธอไปเพราะความหวาดกลัว และไม่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเธอในวันที่เธอหมดสิ้นทุกสิ่งอย่าง หนำซ้ำแม่ที่เธอรักเป็นที่สุด ยังต้องมาล้มป่วยด้วยมะเร็ง เธอไม่มีเวลาให้คร่ำครวญเสียใจ และต้องก้าวต่อไปข้างหน้า แม้ความผิดที่เธอไม่ได้ก่อยังคงติดค้างอยู่ในใจ และยังมีความหวังลึกๆ อยู่เสมอว่าสักวันความจริงว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์จะถูกเปิดเผย
ยุนซูโฮ(คิมดงจุน) ลูกชายคนเล็กของตระกูลยุน เกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่ผ่านความยากลำบากจนกระทั่งสร้างเนื้อสร้างตัวได้สำเร็จ จากธุรกิจร้านซุปเต้าเจี้ยวแบบดั้งเดิม เขามียุนซูฮยอนพี่ชาย กับยุนซูมินพี่สาวที่เรียนเก่ง และเป็นที่รักของผู้เป็นพ่อ ในขณะที่ซูโฮเรียนไม่เก่ง ทำอะไรไม่เคยสำเร็จ และมองโลกในแง่ดีจนน่าแปลกใจ ในขณะที่ซูฮยอนเรียนจบจากต่างประเทศ กลับมาสืบทอดธุรกิจของครอบครัว และคิดขยับขยายให้ก้าวหน้าด้วยการพัฒนาเป็นบริษัทผลิตภัณฑ์ปรุงรส แต่ซูโฮยังคงปฏิเสธที่จะสืบทอดธุรกิจของครอบครัวหลังจากที่เขาเรียนจบ
เมื่อผู้เป็นพ่อยื่นข้อเสนอเป็นเงินก้อนใหญ่ ให้ลูกชายคนเล็กที่มัวแต่เล่นสนุกไปวันๆ แลกกับการสอบใบประกอบเชฟ และไปเป็นเด็กฝึกงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง โดยไม่เปิดเผยตัวตน ทำให้ซูโฮต้องยินยอมทำตามความต้องการของพ่อ เพื่อแลกกับเงินที่ตัวเองต้องการ
และด้วยข้อตกลงที่ซูโฮทำกับพ่อตัวเอง ทำให้เขาได้พบกับอึนซู หญิงสาวรุ่นพี่ที่มีอายุมากกว่าเขาถึง 5 ปี ที่สอบผ่านได้มาเป็นเด็กฝึกงานด้วยกัน สถานการณ์ผลักดันให้ซูโฮและอึนซู ได้เรียนรู้กันและกัน ในวันที่อึนซูไร้คนเชื่อใจ ซูโฮเป็นเพียงคนเดียวที่เชื่อมั่นและอยู่เคียงข้างเธอ และเธอเป็นเพียงคนเดียว ที่ทำให้เขาอยากเป็นผู้ชายที่ดี จากซูโฮคนที่ไม่เอาไหน กลับกลายเป็นอีกคนที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนคนในครอบครัวสังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลง
ในขณะเดียวกัน ศัตรูเมื่อครั้งก่อนเก่าของอึนซู บิทนากลับกลายมาเป็นภรรยาของซูฮยอน พี่ชายคนโตของซูโฮ ผู้บริหารยุนกาฟู้ดส์ ที่เธอกำลังทำงานอยู่ เรื่องราว ความทรงจำที่แสนเจ็บปวดจากน้ำมือของบิทนา ที่เธอเข้าใจว่าเธอลืมเลือนไปหมดแล้ว จึงได้ย้อนกลับมาเตือนสติเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับยากกว่าครั้งเก่า เมื่อบิทนาคือพี่สะใภ้ของซูโฮ และความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซูโฮนั้น ได้ดำเนินมาถึงขั้นที่ไม่มีวันจะยอมแยกจากกัน...
ซูโฮมีพรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด คือการรับรสที่ดีเยี่ยมกว่าคนทั่วไป เขาสามารถแยกชนิดของส่วนผสมในอาหารได้ แค่เพียงลองชิม หลังจากที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยมายาวนาน อึนซูก็เข้ามาทำให้เขาค้นพบความสามารถของตัวเอง และผลักดันเขาไปในทางที่ถูก ซูโฮตัดสินใจไปอยู่ประจำที่ร้านอาหารกับพ่อ เรียนรู้การทำอาหารแบบดั้งเดิม ในขณะเดียวกันก็คิดค้นสูตรอาหารที่เหมาะกับยุคสมัย เพื่อต่อยอดธุรกิจร่วมกับพี่ชาย... แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะง่ายดาย ใช่ว่าอะไรๆ จะสวยงามได้ดั่งใจ และเขายังห่างไกลจากคำว่าประสบความสำเร็จ...
ความสัมพันธ์ต้องห้ามของซูโฮ กับอึนซูจะดำเนินไปอย่างไร ซูโฮจะกลายเป็นผู้ชายที่ดีกว่าของอึนซูได้หรือไม่ และเขาจะค้นพบตัวตนที่แท้ของตัวเองได้อย่างไร อึนซูจะได้รับความยุติธรรมกลับคืนมาหรือไม่ และบิทนาจะได้รับผลตอบแทนอย่างไร... จัดไปจ้า 125 ตอน
😅 แล้วจะรู้เอง^^





เนื้อเรื่องเป็นสไตล์ละครเย็นแม่บ้านเกาหลี ตัวละครเยอะมากๆ แต่ละคนจะมีเรื่องราวของตัวเอง แต่แน่นอนว่าพระนางมักมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับตัวละครนั้นๆ เสมอ มีบางช่วงบางตอนที่อาจจะยืดเยื้อไปบ้าง แต่จุดแข็งของละครเย็นคือ เน้นความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว การใช้ชีวิต ดูแล้วอบอุ่นในหัวใจจนอดไม่ได้ที่จะดูตอนต่อไปเรื่อยๆ
ในเรื่องดงจุนอายุน้อยกว่ายองอึน 5 ปี แต่ชีวิตจริงทั้งคู่มีอายุห่างกันถึง 10 ปี แต่กลับไม่ได้ทำให้รู้สึกแปลก จะมีก็เพียงเลิฟซีน ที่ดูจะน้อยผิดปกติถ้านับจากสตอรี่ไลน์ที่ทั้งคู่เป็นคู่รัก ที่รักกันจนหมดหัวใจ (เพิ่งมารู้จากตอนที่ดงจุนให้สัมภาษณ์ว่า ยองอึนแต่งงาน และมีลูกแล้ว เขาจึงกังวลมากหากจะต้องจูบยองอึน แล้วในอนาคตลูกสาวของเธอต้องมาเห็นแม่จูบกับผู้ชายอื่น อันนี้อาจจะเป็นเหตุให้เห็นคิสซีนของคู่นี้น้อยมากกกก แต่ซีนน่ารักๆ มีเพียบนาจา~)
ถามว่าชอบเนื้อเรื่องมั๊ย ~ เรื่องนี้ได้มาตรฐานตามสไตล์ละครเย็น ที่เน้นความอบอุ่น ความสัมพันธ์ ของคนในครอบครัว จรรโลงสังคม จรรโลงใจผู้ชม ไม่มีใครที่ร้ายสุดขั้ว ไม่มีใครที่ดีสุดขีด และด้วยความยาวมากของละคร บอกเลยว่า รอบเดียวก็เกินพอ

สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
Good Morning Call
อยู่ๆ ไปก็รักกันเอง.... ห่างหายจากซีรีย์ญี่ปุ่นมานานพอสมควร เรื่องล่าสุดที่ดูคือ Nodame Cantabile. ด้วยความที่ไม่ชอบแอคติ้งแบบการ์ตูนข...

-
ใครๆ ก็เป็นซินเดอเรลล่าได้... ออกตัวแรงเอี๊ยดดดว่าไม่ใช่แฟนนัมกุงมินอีกเช่นเคย เหตุผลที่ดูซีรีส์เรื่องนี้ คือ ความตั้งใจว่า อยากด...
-
ปริศนาคำสาปเจ้าหญิง... ที่สงสัยคนดูก็จะโดนสาปไปด้วย ㅋㅋ ช่วงนี้ดูว่างงานจริงจังมาก ดูซีรีส์แบบจบทันฉายจริงตอนต่อตอนเลยทีเดียว ต...
-
ซินเดอเรลล่า... ไม่มีจริง เริ่มเรื่องที่จียอน (อิมซูจอง) สาวสวยตกอับที่จำต้องทำงานในบาร์หาเงินใช้หนี้แทนเพื่อนสนิทที่ก่อหนี้ไว้...