วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2560

Perfect Proposal...


ซินเดอเรลล่า... ไม่มีจริง



เริ่มเรื่องที่จียอน (อิมซูจอง) สาวสวยตกอับที่จำต้องทำงานในบาร์หาเงินใช้หนี้แทนเพื่อนสนิทที่ก่อหนี้ไว้ ด้วยภาระหนี้สินบีบบังคับ ทำให้เธอต้องตกลงใจเข้าไปสมัครเป็นผู้ดูแลตาแก่มหาเศรษฐีคิมซอกกู แลกกับเงินตอบแทนก้อนโต.. แต่นั้นกลับเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อเธอได้พบกับซึงยอล (ยูยอนซอก) ลูกชายนอกสมรสของคิมซอกกู และได้ตกลงทำสัญญาลับๆ ร่วมกัน เพื่อแลกกับมรดกก้อนใหญ่ จำนวนมหาศาลเกินกว่าที่เธอจะคาดไว้ ทำให้อดไม่ได้ที่จะตกกระไดผลอยโจนไปกับสัญญาที่ไร้ช่องโหว่นี้

จียอนถูกแปลงโฉม และวางคาแรคเตอร์ให้เป็นเหมือนรักแรกของตาแก่ซอกกู โดยมีซึงยอลเป็นผู้ดูแลและจัดการทุกสิ่งอย่าง ฉากชีวิตที่ถูกเขียนขึ้นมีฉากหลังเป็นเรือยอท์ชที่หรูหรา สิ่งที่เธอต้องทำก็มีแค่เพียง ทำให้ตาแก่ตกหลุมรัก และแต่งงานกับเธอ ในระหว่างที่เรื่ิองราวกำลังดำเนินไป เธอกลับรู้สึกได้ว่า ความจริงแล้วคนที่เธออยากจะใช้ชีวิตอยู่ด้วย คือ ซึงยอล บุตรชาย หาใช่ซอกกู ผู้เป็นพ่อ

บางทีนี่อาจจะเป็นเพียงภาพยนตร์เล่นชู้ ผิดศีลธรรม หากคนเขียนบทไม่พาเราที่กำลังหลงใหลได้ปลื้มไปกับความรักแบบหลบๆ ซ่อนๆ ของจียอน-ซึงยอล ให้ต้องอ้าปากค้างด้วยการหักมุมแบบที่โปสเตอร์ภาพยนตร์ก็บอกอะไรเราไม่ได้ 

พูดมากก็ดูจะเป็นการสปอลย์ขั้นสุด แต่ยอมรับว่า บทภาพยนตร์เขียนมาได้ดีมาก ดีจนอึ้งว่า จบแบบนี้ก็ได้เหรอ...

ยูยอนซอก กับบทซึงยอล ~ ยอนซอกเป็นหนุ่มเกาหลี ใสๆ ที่ให้จินตนาการถึงความเลวร้ายก็คงเป็นไปได้ยาก แต่เราจะได้เห็นยอนซอกในแบบที่เย่อหยิ่ง ชั่วร้าย แต่ก็เร่าร้อน ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้ ลืมพ่อหนุ่มชิลบง 7 ไม้ ที่อกหักรักคุดไปได้เลย เพราะยอนซอกจะทำให้คุณได้เห็นว่า หน้าใสๆ นั่นแหละใจร้ายนัก!

อิมซูจอง ~ ส่วนตัวดูงานของเธอน้อยมาก รู้เพียงแต่ว่านี้คือตัวแม่คนหนึ่งของวงการหนังเกาหลี และแน่นอนว่าชื่อชั้นของเธอไม่ทำให้ผิดหวัง ซูจองรับบทหญิงสาวสู้ชีวิต ที่แอบฝันว่าสักวันจะได้เป็นซินเดอเรลล่า แต่กลับต้องร่วงลงจากหลังม้า เพราะเจ้าชายไม่มีจริง ได้อย่างน่าทึ่ง ทึ่งระดับที่ว่า รู้แบบนี้น่าจะหางานของเธอมาดูให้มากกว่านี้

☆☆☆☆ สำหรับบทภาพยนตร์ ที่เหมือนรถไฟฟ้าเหาะ ตื่นเต้น และยากจะคาดเดา ชอบมากจริงๆ
☆☆☆☆ สำหรับโปสเตอร์ และเทรลเลอร์ที่หลอกกันเล่นเฉยเลย เชื่อเราสิว่าโปสเตอร์ไม่ทำให้คุณเข้าใจว่านี่คือภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวน 
☆☆☆ ให้ยูยอนซอก คุณหลอกดาว... แต่ก็ชอบในฝีมือนะ นักแสดงคนนี้เล่นได้อิน ได้ดีทุกบทบาทแบบที่หน้าใสๆ ไม่มีผลต่อบทเลย

Recommend ให้คนที่ชอบภาพยนตร์แนวซ่อนหา ซ่อนแอบ ลึกลับ ฆาตรกรรม ว่าควรต้องดู ดูแล้วจะไม่ผิดหวัง แต่ถ้าไม่ถูกใจ ก็คิดซะว่าไปดูซิกแพคของยอนซอกเพลินๆ ล่ะกัน #ของเขาดีมีคุณภาพจริงๆ

Mood of The Day.

Mood of The Day (그날의 분위기) 
หนังรักฉบับเกาหลี แต่มีกลิ่นอายของหนังรักดิสนีย์เต็มเปี่ยม



ออกตัวว่าไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ของยูยอนซอกแต่ประการใด แต่มานับๆดู นี่ดูหนังยูยอนซอกไปเยอะมาก แทบจะทุกเรื่องเลย 

Mood of The Day ปล่อยโปสเตอร์มาซะแบบที่เราคิดว่ามันจะเป็นโรแมนติกคอเมดี้ แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่นับว่าคอเมดี้อะไรมากมาย ไปทางโรแมนติก(แต่ไม่เศร้า)ซะมากกว่า

ยูยอนซอก รับบท คิมแจฮยอน ตัวแทนของเอเจนซี่นักกีฬาชื่อดัง ที่เรียกว่ามีอาวุธเป็นหน้าตา ความสามารถพิเศษคือการเจรจา เจรจาเก่งระดับที่ว่าฟันสาวได้ไม่ซ้ำหน้าและไม่เคยมีปัญหาให้มาตามล้างตามเช็ด

มุนแชวอน รับบท เบซูจอง สาวสวยผู้บริหารบริษัทเครื่องสำอางที่กำลังต้องการตัวนักกีฬาในสังกัดของคิมแจฮยอนมาเป็นพรีเซนเตอร์ ด้วยความที่เธอสวยและเก่ง ทำให้คนรอบข้างเข้าใจไปว่าชีวิตของเธอคงจะสมบูรณ์แบบ แต่ความจริงเธอกำลังอยู่ในความสัมพันธ์ขั้นที่ว่ากลับตัวก็ปวดใจ จะเดินต่อไปก็ยากจะอดทน

ความบังเอิญพาทั้งคู่มาพบกัน ความสัมพันธ์ที่เริ่มจากคำว่า "one night stand" พาให้เกิดเป็นเรื่องราวสนุกๆ ปนความโรแมนติก กับอีกบทพิสูจน์ของคำว่า "รักแท้น่าจะมีอยู่จริง"

นักแสดงนำ - ส่วนตัวคิดว่าเลือกนักแสดงมาได้เหมาะกับบทมากเลยทีเดียว นึกภาพ หล่อ ละมุน เกาหลี แบบยูยอนซอก ก็ไม่แปลกใจนักถ้าหน้าแบบนี้จะควงดาบใส่สาวๆ ได้แบบไม่เลือกหน้า ส่วนของมุนแชวอน บทสไตล์นี้นับว่าเข้าทางเธอเลยทีเดียว

ด้วยความที่เป็นหนังรักเรื่อยๆ ลองนึกถึง The Proposal อะไรแบบนั้น เป็นหนังรักที่ดูแล้วอมยิ้ม อบอุ่นเบาๆ แต่ไม่ถึงกับประทับใจจนต้องดูอีก และด้วยความชิล ความเบา เราจึงไม่ได้เห็นซีนฟาดฟันอารมณ์โฉ่งฉางอะไร นอกจากการแสดงตามมาตรฐานของนักแสดงนำ

จริงๆ แล้วชอบแบบ He just not that into you. ที่ดูแล้วรู้สึกว่าในความรอมคอมมันยังมีจุดให้คิด หรือ Nothing Hill ที่ยังแอบสะกิดใจเรานิดๆ ซึ่ง Mood of The Day ยังคงไม่ถึงระดับนั้น

🌟🌟🌟 สำหรับเนื้อเรื่อง บท
🌟🌟🌟🌟 สำหรับนักแสดงนำ เคมี
🌟🌟🌟🌟🌟 และ 👍 100 ครั้ง สำหรับ Yoo Yeonsuk Thaifans ซับไทยที่ทำให้ดูฟรี ก็รู้นะว่าผิดกฎหมาย แต่สำหรับคนทำซับที่ทำด้วยหัวใจ ไม่มีอะไรนอกจากอยากให้คนอื่นได้เห็นผลงานของนักแสดงที่ตัวเองชอบ โดยไม่ต้องรอ Big Cinema (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้ดูมั๊ย) นับถือหัวใจค่ะ

Next: รีวิวคราวหน้า The Perfect Proposal ผลงานยูยอนซอกอีกเช่นกัน ดูจบแล้ว แต่ยังไม่ได้คุยเลย คราวหน้านะ 😘

วันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560

Fatal Intuition.



ตั้งใจว่าหลังดู The Priests หนังพี่วอนจบ จะพูดถึง Fatal Intuition หนังของพี่จู ที่ออกมาในช่วงไล่เลี่ยกัน ได้ฤกษ์งามยามดีล่ะ หลังจากดูหนังพี่จู จบไปน่าจะเป็นเดือนแล้ว....

Fatal Intuition คือชื่ออย่างเป็นทางการของ That Guy หนังทริลเลอร์ที่พี่จูบอกว่า นี่จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตพี่ แล้วแบบนี้จะไม่ดูได้อย่างไร

งานนี้พี่จูรับบทเป็น ผบ.ทบ. ย่อมาจากผู้บ่าวไทบ้าน แต่เป็นนัมจาหน้าดำที่เทรนดี้ด้วยม้าเต่อ ก็ไม่เข้าใจว่านัมจาไทบ้านทำไมต้องม้าเต่อ? 

ผกก.ยุนจุนฮยองภูมิใจนำเสนอว่า นี่คือทริลเลอร์ที่ base on true story แต่เอาเข้าจริงๆ เป็นเรื่องจริงแค่ประมาน 30% ของเรื่อง น่าจะใช้คำว่า แรงบันดาลใจ อินสไปเรชั่น อะไรแบบนั้นมากกว่า 

จูวอน ผบ.ทบ ชื่อจางอู ใช้ชีวิตแบบฮาร์ดคอร์ รูปหล่อ พ่อไม่รู้อยู่ไหน แต่ที่สำคัญคือความฮอตปรอทแตกของผบ.ทบ.ช่างรุนแรง ความน่ากลัวของหนังถูกกลบด้วยความดิบเถื่อน แบดบอย(?) ของพี่จู จนมีความรู้สึกว่าซื้อตั๋วมาดูจูวอนก็พอล่ะ

อีกหนึ่งคนที่น่าสนใจมากๆ คือตัวโคตรพ่ออย่างยูเฮจิน ขึ้นชื่อนี้ให้วางใจว่าสบายหายห่วง ด้วยหนังจั่วหัวว่า จูวอน ยูเฮจิน ให้ลองนึกถึงแอคติ้งขั้นเทพกับระดับปรมาจารย์มาเจอกัน ทุกครั้งที่เผชิญหน้ากันบนจอ จะรู้สึกเหมือนกำลังดูหนังกำลังภายใน การประลองยุทธ์กลางป่าไผ่แบบสามวันสามคืนก็ยังหาผู้ชนะไม่ได้ ซีนอารมณ์คือมาเต็ม จัดเต็มแบบนั้นจริงๆ

ในแง่ของตัวบทหนัง อาจจะเป็นเพราะความคาดหวังสูงที่เกิดจากคำบอกเล่าของจูวอน ทำให้เราคิดไปเองว่า หนังจะหักมุมจนต้องอึ้งไป 3 คืน 8 วัน แต่หนังกลับคลายปมง่ายๆ ตั้งแต่ต้นเรื่องค่อนไปกลางเรื่อง ไม่ได้มีซีนที่ทำให้เราอินไปกับจางอู ใช้ความคิดหาตัวคนร้ายเลย เฉลยมาง่ายๆ แล้วก็แค่ปล่อยให้เราดูพระเอกวิ่ง 4x100 ไปจนจบเรื่อง ทำให้หนังขาดเสน่ห์ไปจนเข้าขั้นเฉย ทั้งที่ต้นเรื่องปูมาดีมากๆ



จริงๆ ไม่อยากสปอยล์ ใครมีโอกาสอยากให้ดู แอคติ้งของนักแสดงนำ 2 คน ก็คุ้มค่าที่จะดูแล้ว ส่วนเนื้อเรื่องถือว่ามันช่วยทำให้เราได้เห็นตัวพ่อโคจรมาเจอกะตัวโคตรพ่อล่ะกัน อย่าไปคิดเยอะ

☆☆ สำหรับเนื้อเรื่อง
☆☆☆☆ สำหรับนักแสดงตัวโคตรพ่อ ยูเฮจิน

ส่วนพี่จู จูวอน #ปาหัวใจใส่รัวๆ ❤❤❤❤ มี 💯 ให้เกิน 💯

วันพุธที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2560

The Priests... The Exocist เวอร์ชั่นเกาหลี....

The Priests... The Exocist เวอร์ชั่นเกาหลี....





ด้วยยอดขายตั๋วถล่มทลาย แบบทิ้งคู่แข่งที่เป็นหนังฮอลลีวู้ดแบบไม่เห็นฝุ่น แถมออกสตาร์ทด้วย 3 วัน ยอดขายตั๋วทะลุล้านใบแบบชิลๆ เลยทำให้อยากดูหนังเรื่องนี้มากๆ อยากรู้คำตอบจริงๆ ว่าที่คนดูถล่มโรงขนาดนี้ เป็นเพราะตัวพ่ออย่างคิมยุนซอก และพี่วอน คังดงวอน หรือหนังมันดีแบบสุดลิ่มทิ่มประตูจริงๆ

ถ้าใครเคยดู The Exocist อาจจะพอนึกภาพความน่ากลัวออก แต่เรื่องนี้มาแบบเกาหลี ใช้นักแสดงเกาหลี ตัวละครพูดเกาหลี ฉากหลังเป็นเมียงดงแหล่งช้อปของเกาหลี ซึ่งทำได้น่ากลัวมาก น่ากลัวแบบผีอินเตอร์ ผีฮอลลีวู้ด ไม่ใช่ผีเกาหลีแบบจูออนที่คลานมาตามพื้นเรือน เป็นความรู้สึกที่อาจไม่คุ้นเคยในแบบเกาหลี เหมือนนั่งกินแฮมเบอร์เกอ ในร้านอาหารเกาหลี 

หนังมีกลิ่นอายของความเป็นตะวันตก จนเกิดความสงสัยว่า ปัจจุบันคนเกาหลีเชื่อเรื่องผี เรื่องวิญญาน แบบความเชื่อในศาสนาคริสต์ อย่างนั้นเหรอ? เรื่องนี้ยังไม่ได้หาคำตอบ คงต้องถามจากคนเกาหลีจริงๆ

ตัวบทหนังถือว่าค่อนข้างดี ไม่มีตรงไหนที่ดูแล้วสะดุดหรือเกิดข้อสงสัย แต่ปัญหาคือ ความแปลกใหม่ หนังให้ความรู้สึกเหมือนหนังบาทหลวงไล่ผี ที่เราเห็นได้บ่อยๆ จากหนังฝรั่ง มันเลยดูธรรมดาๆ นอกจากความน่ากลัว ที่ยอมรับว่าทำได้สุด ทำได้ดี ก็ไม่มีอย่างอื่นแปลกใหม่



นักแสดงตัวพ่ออย่างคิมยุนซอกและพี่วอน เอาอยู่จริงๆ เอาอยู่แบบแทบไม่อยากเชื่อว่าพี่วอนปีนี้ 34 แล้ว เล่นเป็นบาทหลวงฝึกหัด ถ้าเข้าใจไม่ผิดคือที่เรียกว่า Deacon พี่วอนเป็นเดเคนได้น่ารัก น่าหลอกให้สึกมาก (นรกกินกระบาลล่ะ) ส่วนคิมยุนซอก จะเรียกว่าตัวพ่อก็คงไม่ถูก ต้องเรียกว่าตัวโคตรพ่อ รักษามาตรฐานได้อยู่แล้ว แต่ด้วยบทไม่ได้โชว์ซีนอารมณ์แย่งซีนอะไรกันโฉ่งฉ่าง ก็นับว่าได้มาตรฐานตัวพ่อโคจรมาเจอกัน

คนที่ชอบดูหนังผีน่าจะชอบนะ เพราะผีมายาวมาก ยาวจนทรมานใจ อึดอัดกันไปเลย ไม่ใช่หลอน แต่มาแบบจังๆ ก็เล่นเอาต้องเบือนหน้าเป็นระยะๆ

☆☆☆ สำหรับเนื้อหา การเดินเรื่อง
☆☆☆☆☆ ให้ความน่ารักของพี่วอน

Tomorrow with you ~ พรุ่งนี้ อาจไม่มีฉัน

Tomorrow with you ~ พรุ่งนี้ อาจไม่มีฉัน




เคยตั้งใจว่าจะรีวิวซีรีย์/หนังที่ได้ดู ได้ชม ในมุมของตัวเอง แต่พอเอาเข้าจริงๆ กลับรู้สึกว่าบางเรื่องก็เป็นแค่ความบันเทิงอย่างหนึ่ง อาจจะมีข้อคิดแฝงอยู่ในเรื่องราว แต่จิตใจเราอาจจะห่างไกลเรื่องราวมากเกินไป จึงอาจไม่ลึกซึ้ง ไม่เข้าใจในเนื้อหา จนไม่ติดตาติดใจให้ต้องเขียนถึง

Tomorrow with you เป็นซีรีย์ในล๊อตนี้ในรอบซีรีย์/หนังหลายสิบเรื่องที่ดู แล้วทำให้รู้สึกว่าน่าจะต้องเขียนถึงเมื่อมีเวลา และเมื่อผ่านการคัดกรองในกระบวนความคิดเราแล้ว

ซีรีย์เปิดตัวได้หวือหวาเพราะชื่อของนักแสดงที่ว่ากันว่า เชื่อใจได้ในฝีมือ และเป็นการจับคู่ที่ลงตัวเป็นอย่างมาก ด้วยความที่ไม่ใช่แฟนของนักแสดงนำทั้งสองคน ทำให้เราไม่ได้ตื่นเต้นกับซีรีย์เรื่องนี้เลย แต่ข่าวการรับละคร ภาพยนตร์ระดับบล๊อกบลัสเตอร์ ของอีเจฮุน พระเอกของเรื่อง ทำให้เราอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่า นักแสดงคนนี้น่าจะมีดีอยู่ไม่น้อย

เรื่องราวเริ่มที่ซงมาริน (ชินมินอา) หญิงสาวผู้ผูกตัวเองติดกับอดีต ใช้ชีวิตล่องลอยไปวันๆ เพราะเชื่อว่าอดีตอันล้มเหลวของเธอ ทำให้อนาคตของเธอไม่มีวันจะประสบความสำเร็จ บังเอิญ(ตามความเข้าใจของมาริน) มาพบกับยูโซจุน (อีเจฮุน)  ชายหนุ่มปริศนาที่คอยตามตอแยเธออย่างไร้เหตุผล และมีพฤติกรรมแปลกๆ ทั้งการล่วงรู้สภาพอากาศล่วงหน้า หรือแม้แต่การบังเอิญเจอกันซ้ำๆ ทั้งที่ไม่ควรจะเจอ



มารินเผลอปักใจว่าการมีอยู่ของโซจุนในชีวิตเธอ คือความรัก พรหมลิขิตบันดาลชักพา โดยที่ไม่รู้เลยว่า โซจุนเป็นนักท่องเวลา เขาสามารถเดินทางไปมาระหว่างปัจจุบันกับอนาคตได้ และเหตุผลที่เขา เข้ามาในชีวิตเธอ ก็เพียงเพื่อจะแก้ไขอนาคตเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงเกิดเป็นเรื่องราวหญิงสาวผู้ติดอยู่กับความล้มเหลวในอดีต กับ ชายหนุ่มผู้มุ่งมั่นจะแก้ไขความเสียหายในอนาคต ผู้ไม่เคยยอมรับและเข้าใจคำว่าโชคชะตา

โซจุนเดินทางข้ามเวลาไปในอนาคตอีกสองปีข้างหน้าได้ และได้เห็นเรื่องราวมากมาย ที่เขาเอามาเป็นประโยชน์กับตัวเอง หรือแม้แต่เก็บมาเป็นปัญหาให้ครุ่นคิดหาทางแก้ไข ทำให้เขามัวแต่มุ่งมั่นที่จะเห็นอนาคตของตัวเอง แล้วพยายามจะทำทุกอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลง แต่ก็มีหลายต่อหลายครั้งที่ความพยายามของเขากลับไม่เป็นผล จนต้องมานั่งโทษตัวเองที่รู้ แต่ทำอะไรไม่ได้

มาริน จากนักแสดงเด็กที่โด่งดัง กลายมาเป็นที่ล้อเลียน และไม่สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ เพราะความโด่งดังกลับกลายเป็นความล้มเหลวเพียงข้ามคืน การได้พบเจอกับโซจุน คนที่เห็นคุณค่าในตัวเธอ และทำให้เธออยู่กับตัวเองในปัจจุบัน แทนที่จะติดกับความล้มเหลวในอดีต ทำให้เธอได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ มีความสุขกับปัจจุบัน แต่ทุกอย่างกลับไม่ง่ายดายเมื่อเธอได้รู้ว่าโซจุนเป็นนักท่องเวลา และเขาติดอยู่กับอนาคตที่ไม่ว่าจะพยายามแก้ไขอย่างไร ก็พบแต่คำว่า "ทำอะไรไม่ได้"

หากมองเผินๆ นี่อาจจะเป็นเพียงซีรีย์รักโรแมนติก ที่เปิดโอกาสให้เราได้ลุ้นไปกับความสัมพันธ์ของพระ-นาง ที่มีเส้นแบ่งเวลาเป็นปัจจัยให้เนืี้อเรื่องน่าติดตาม แต่การดูซีรีย์เรื่องนี้อย่างพินิจพิเคราะห์ สิ่งที่นักเขียนบท(ในเกาหลี มักจะสร้างซีรีย์จากการเขียนเรื่องราวขึ้นมาสดใหม่ ต่างจากบ้านเราที่นิยมเอานวนิยายชื่อดังมาทำละคร พอจะเรียกบทละครเกาหลีว่าบทประพันธ์ ก็เลยอาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ความจริงพล๊อตเรื่องที่เกาหลีเขียนขึ้นมาก็ทรงคุณค่า ไม่น้อยกว่านวนิยายอมตะเลย) พยายามจะสื่อกับคนดู ก็อาจหมายถึง ให้อยู่กับปัจจุบัน และทำมันให้ดีที่สุด แทนที่จะโศกเศร้าอยู่กับอดีตที่ไม่หวนคืนอย่างที่มารินทำ หรือมุ่งมั่นแต่จะแก้ไขอนาคตที่ยังมาไม่ถึงอย่างที่โซจุนเป็น 

เนื่องจากซีรีย์ยังไม่จบ จึงยังไม่อาจทราบได้ว่าท้ายที่สุดแล้ว ซีรีย์จะทิ้งท้ายอะไรให้เรา อาจจะเป็น ลืมอดีต อยู่กับปัจจุบัน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะเรากำหนดอนาคตไม่ได้... หรืออะไรสักอย่าง

☆☆☆☆ให้การดำเนินเรื่อง การเล่าเรื่องราวไป-มา ปัจจุบันกับอนาคต ทำให้ต้องตั้งใจดู เพราะเสี่ยงที่จะงงเอาง่ายๆ
☆☆☆☆☆ ให้นักแสดง ดีเยี่ยมไปตั้งแต่นักแสดงนำ ยันตัวประกอบ เล่นดี จนอินไปด้วยจริงๆ

ใครควรดู: แฟนคลับอีแจฮุน ชินมินอา และคนที่อยากจะดูอะไรที่ซึ้งๆ หวานๆ แฝงไปด้วยความตื่นเต้นเบาๆ แต่บีบหัวใจพอควร



Note: เห็นช่วงก่อนหน้าซีรีย์ออนแอร์ มีกระแสหวีดอีเจฮุนกันหนักพอควร ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าบทมันไม่ส่ง หรือดูเกร๋ไม่พอ เลยทำให้เสน่ห์ของนักแสดงไม่ได้ถูกดึงออกมา ทั้งที่แอคติ้งดี และทำให้เชื่อได้ว่าเขาเป็นยูโซจุนจริงๆ

Good Morning Call

อยู่ๆ ไปก็รักกันเอง.... ห่างหายจากซีรีย์ญี่ปุ่นมานานพอสมควร เรื่องล่าสุดที่ดูคือ Nodame Cantabile. ด้วยความที่ไม่ชอบแอคติ้งแบบการ์ตูนข...