วันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2560

The King In Love.

The King In Love.

ตั้งใจว่าจะดูซับไทยสองตอนสุดท้ายให้จบ แล้วค่อยพูดถึง~ แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังคงทิ้งไว้ที่ซับไทยสองตอนสุดท้าย


왕은 사랑한다 หรือ The King In Love เป็นเรื่องราวก่อนขึ้นสู่บัลลังค์ของพระเจ้าชุงซอน พระราชาลำดับที่ 26 แห่งราชวงค์โครยอ แต่เป็นพระราชาลูกครึ่งหยวน(มองโกล)-โครยอ(เกาหลี) พระองค์แรกในประวัติศาสตร์เกาหลี ด้วยชื่อเรื่องที่จั่วหัวมาว่า เป็นเรื่องราวการตกหลุมรักของพระราชา งานนี้เชื่อหัวว่า 100 ทั้ง 100 มั่นใจว่าพระเอกของเรื่องคือพระเจ้าชุงซอน และนางเอกของเรื่องต้องมาเป็นคนที่พระองค์อินเลิฟด้วยอย่างแน่นอน ~ ลองดูก่อนดีมั๊ย 😅

เริ่มเรื่องด้วยความสัมพันธ์ของวังวอน (พระเจ้าชุงซอน ขณะเป็นองค์รัชทายาท) กับพระเจ้าชุงยอล พระบิดา ที่ดูจะไม่ลงรอยกันเท่าไหร่ แน่นอนว่าคนดูที่ไม่รู้เรื่องประวัติศาสตร์ย่อมแปลกใจแน่นอนว่า ก็ในเมื่อพ่อไม่รัก แล้ววังวอนได้ตำแหน่งรัชทายาทมาได้ยังไง ถ้ารอเฉลย(แบบไม่ละเอียดนัก)ที่มีให้เห็นในช่วงต้นค่อนไปกลางเรื่องไม่ไหว ก็คงต้องไปหาประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิมองโกล ในช่วงการปกครองของกุบไล ข่าน ปฐมกษัตริย์ผู้สถาปนาราชวงค์หยวน ผู้มีศักดิ์เป็นพระอัยกา(ตา)ของวังวอน มาอ่านกันก็จะได้อินกันไปอีก

นอกจากความสัมพันธ์อันไม่ลงรอยของพ่อกับลูกแล้ว เนื้อเรื่องจะนำพาเราดำดิ่งไปกับมิตรภาพที่ล้ำลึกระดับยอมตายแทนกันได้ของวังวอน(อิมชีวาน) กับวังริน(ฮงจงฮยอน) ผู้สืบเชื้อสายเลือดบริสุทธิ์แห่งโครยอ มีศักดิ์เป็นพระญาติ และเป็นแคนดิเดทคนสำคัญที่เสด็จแม่ของวังวอน หวั่นใจทุกครั้งเมื่อเห็นการมีอยู่ของวังริน ที่ไม่ต่างอะไรกับหอกข้างแคร่ พร้อมจะปล้นบัลลังค์ได้ทุกเมื่อ หากวังรินหลงมัวเมาในอำนาจ และเพราะเหตุนี้ ทำให้ได้เห็นโมเม้นที่เหมือนแม่ผัวผู้เกลียดชังลูกสะใภ้ กับลูกสะใภ้ผู้น่าสงสาร อยู่บ่อยๆ ตั้งแต่ต้นจนเกือบจะจบเรื่อง



อ่านมาจนถึงตอนนี้ นี่หมายความว่านางเอกไม่จำเป็นใช่มั๊ย ~ 😅 แต่แน่นอน เพื่อนรักมักต้องหักเหลี่ยมโหด ตัวละครอึนซาน(ยุนอา SNSD) จึงจำเป็นต้องมีอยู่ในเรื่องราว กลายเป็นที่มาของเรื่องราว การก้าวขึ้นสู่บัลลังค์ของพระเจ้าชุงซอน อันมีความรัก มิตรภาพ และการสูญเสียเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อจะหล่อหลอมให้รัชทายาทวังวอนกลายเป็นกษัตริย์ที่พระปรีชาที่สุดพระองค์หนึ่งของประวัติศาสตร์เกาหลี


***ตั้งใจว่าจะไม่สปอยล์เลย

นี่คือการดูผลงานการแสดงของอิมชีวาน ไอดอลนักแสดงที่ได้รับการยอมรับในฐานะนักแสดง เป็นครั้งแรก (ไอดอลเกาหลีหลายคนที่รับงานแสดง แต่ยังไม่สามารถก้าวผ่านอคติของผู้ชมงานแสดงได้ แต่อิมชีวานคือไอดอล ที่ได้รับการยอมรับอย่างไม่มีข้อกังขา หมายความว่า การันตรีได้เลยว่า ฝีมือการแสดงเฉียบจริง) ชีวานสวมบทบาทรัชทายาทวังวอนได้อย่างไร้ที่ติ การมีบุคลิกแบบสองขั้ว ร่าเริง สดใส ขี้เล่น แบบฮันชอล และ รักแรง เกลียดแรง แบบวังวอน ทำให้ตัวละครตัวนี้ เหมาะมากที่จะเอามาทำซีรีย์ยาว 40-50 ตอน ให้ผู้ชมได้เห็นถึงเกมการเมืองที่วังวอนมีทั้งลูกล่อลูกชน และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่วังวอนทำได้ดี ทั้งในแง่การเสียสละ การเอาประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง แต่ก็ยังทันเกมฝ่ายตรงข้าม บังเอิญว่าในส่วนนี้ด้วยจำนวนตอนอันน้อยนิด ทำให้ตัวเอกของเรื่องตัวนี้ ไม่ได้แสดงให้เห็นชัดเจน(หากไม่ตั้งใจมอง) และที่คนเขียนบทลืมไปเสียสนิทก็คงเป็น ความเจ็บปวดรวดร้าวของวังวอน ที่เกิดจากการเสียสละเพื่อความถูกต้อง ทำให้ตัวละครตัวนี้ทำได้แค่สวยงาม แต่ยังไม่ถึงขั้นงดงาม

คาแรคเตอร์วังริน ที่รับบทโดยฮงจงฮยอน เป็นอีกบุคคลในประวัติศาสตร์ที่มีอยู่จริง แต่ถูกลบเรื่องราว/ไม่ได้รับการบันทึกใดๆ ไว้ในประวัติศาสตร์ อันเป็นที่มาให้คนเขียนบท นำมาผูกเรื่องราวให้เป็นดั่งนิยายต้นฉบับ วังรินถูกสร้างคาแรคเตอร์มาแบบพระรองผู้แสนดี แบบที่เราจะเดากันได้ว่า หล่อ ดี ไร้ที่ติ นางเอกไม่เอาแน่นอน ~ ติดตามผลงานของฮงจงมาตลอด แว้บแรกที่เห็นฮงจงใน vampire idol คือ ผู้ชายคนนี้หล่อมาก หล่อแบบเกินจะเป็นแค่นายแบบ หล่อระดับนี้ต้องพระเอกเท่านั้น แต่พอเห็นแอคติ้งแล้ว ก็คิดได้ว่าคงต้องฝึกอีกเยอะเลย แต่การรับบทวังรินในครั้งนี้ เรียกว่าเป็นโอกาสที่ดีงามมากของฮงจง เพราะบทนี้นอกจากจะเรียกเสียงกรี๊ดได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังได้เห็นพัฒนาการด้านการแสดงที่ดีมากๆ ของฮงจง

ต้นเรื่องรู้สึกว่าบทวังริน โคตรจะเท่จริงๆ เห็นแววเสียสละแมนๆ มาแต่ไกล แต่แน่นอนว่า เราจะต้องรับได้ แม้จะเสียน้ำตาให้ แต่เราจะไม่ลืมบทนี้ และก็ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น ถ้าคนเขียนบทไม่เลือกที่จะทำลายความเท่ ความนิ่งของวังรินในช่วงท้ายเรื่อง แถมยังจะทำลายก็ยังใจไม่ถึง ทุบบทนี้จนบิ่นไปแล้ว ก็นึกขึ้นมาได้ว่าจะดูไม่ดี เอาปูนมาฉาบเสียใหม่ แต่ก็ทิ้งรอยปะที่ไม่ประณีตไว้ให้คนดูอย่างเราต้องสบถ และยังไม่พอ ยังจะหาความชอบธรรมให้กับรอยบิ่นนี้ด้วยการโยนฆ้อนไปใส่มือวังวอน นับว่าเป็นการทำร้ายตัวละครที่เราไม่โอเคเอาเสียเลย

ว่ากันว่าละครที่ดีคือละครที่ถูกใจเรา สำหรับ The King In Love ก็คงจะเป็นเช่นนั้น สำหรับเรานี่คือละครต้นดี ปลายงง งานโปรดักชั่นประณีต แต่ดูแล้วไม่อิ่ม มีการโปรยคำ ทิ้งนั่นนี่ให้สงสัย แต่กลับไม่ได้รับการเฉลยข้อสงสัย หรือความหมายที่แท้จริงของคำเหล่านั้นเลย มีบางช่วงบางตอนที่ยืดยาดเสียจนสงสัยว่ามีนัยยะอะไรแอบแฝงมั๊ย แต่พอบทที่ควรจะให้ความสำคัญ การชิงไหว ชิงพริบของตัวละคร ดันรีบตัดต่อลวกๆ ยังกะเมียโทรตามให้รีบกลับบ้าน และจุดโฟกัสของเรื่องที่แกว่งไปมา จนไม่แน่ใจว่าจะโฟกัสที่จุดไหนกันแน่ เพราะไม่สุดสักทาง


วันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Weightlifting Fairy Kim Bok Joo.


คนจะงาม งามที่ใจ ใช่ใบหน้า

ทั้งที่ดูเรื่องนี้จบไปตั้งแต่ยังออนแอร์ แต่ก็ไม่มีเวลาได้พูดถึงสักที ความตั้งใจแรกที่ดูคือ เป็นละครฆ่าเวลา ระหว่างรอดูโดบงซุน ที่ยังไม่ออกอากาศในตอนนั้น อาจจะดูเป็นละครกะโหลกกะลา ถ้าวัดกันจากเรตติ้ง แต่นี่คือละครน้ำดี แบบที่หวังจะได้เห็นละครจรรโลงสังคมแบบนี้จากช่องทีวีของไทยบ้าง



คิมบ๊กจู (อีซองคยอง) สาวน้อยวัยแรกรุ่น แต่ด้วยความสามารถ และรูปร่างอันใหญ่โตของเธอ ทำให้เธอไม่ได้ใช้ชีวิตแบบที่สาวๆ ทั่วไปจะเป็น บ๊กจูเป็นนักยกน้ำหนักดาวรุ่ง ที่ชีวิตวันๆ หมดไปกับการฝึกซ้อมและสนุกสนานกับเพื่อนที่เป็นนักยกน้ำหนักของเธอ

จองจุนยอง (นัมจูฮยอก) นักกีฬาว่ายน้ำดาวรุ่งของชมรม ชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความสามารถ และรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหลา ระดับที่เรียกได้ว่าเป็นเจ้าชายนักว่ายน้ำ

รีวิวแค่คาแรคเตอร์ของนักแสดงนำก็พาลให้คิดไปว่า นี่คงจะเป็นละครพล๊อตเก่าๆ ที่ลูกเป็ดขี้เหร่ไปหลงรักเจ้าชาย แล้วพยายามทำทุกอย่างให้เจ้าชายหันมามอง แต่ขอบอกว่า ~ ไม่ใช่เลยยยยยยย

ในขณะที่สังคมเราเคยชินกับสาวน้อยที่หน้าตาธรรมดา แล้วหวังว่าสักวันจะมีเจ้าชายพร้อมราชรถมาเกย แต่ละครเรื่องนี้กลับชี้ให้เห็นถึงความดีงามในจิตใจของบ๊กจู หญิงสาวหน้าตาธรรมดา รูปร่างห่างไกลจากเทรนด์นิยม กับจุนยอง ชายหนุ่มผู้หล่อเหลา ราวกับเจ้าชาย บุคลิกดูฉาบฉวย แต่กลับมองลึกไปถึงจิตใจที่ดีงามของบ๊กจู จนเขาไม่อาจปล่อยให้เธอต้องหลุดมือไป



บ๊กจูอาจจะมีความฝันเหมือนกับเด็กสาวทั่วไป นั่นก็คือการได้เป็นที่รักของใครสักคน ทำให้เธอตกหลุมรักจองแจอี ญาติผู้พี่ของจุนยอง และพยายามจะทำให้เขาประทับใจ โดยมีจุนยองคอยช่วยเหลือ ทั้งที่เธอเป็นความทรงจำที่เขาไม่อาจลืมมาตั้งแต่เด็ก

แน่นอนว่าพล๊อตยังคงหนีไม่พ้นสาวน้อยธรรมดาที่ตกหลุมรักเจ้าชายผู้เลิศเลอ แต่ในคราวนี้ แจอี เจ้าชายผู้เลิศเลอของบ๊กจู ไม่ได้ตอบรับความรู้สึกของเธอ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้มองข้ามเธอไป เพียงแต่เธอไม่ใช่สำหรับเขา การปฏิเสธความรู้สึกที่บ๊กจูมีต่อเขา อาจจะเจ็บปวด แต่ไม่เจ็บใจ

ในขณะที่เนื้อเรื่องปูมาว่าบ๊กจูคือ นักกีฬายกน้ำหนัก รูปร่างใหญ่โต หน้าตาธรรมดา แต่เรากลับไม่เคยได้ยินคำว่า "อ้วน" "ไม่สวย" หรือคำอื่นๆ ที่ใช้เปรียบเปรยผู้หญิงร่างใหญ่ จากปากตัวละครรอบตัวของบ๊กจู

สิ่งที่คนเขียนบทพยายามจะบอกกับสังคม น่าจะหมายถึงการเคารพในปัจเจกบุคคล ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เลิศเลอมาจากที่ไหน คุณก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินคนอื่นจากรูปร่าง หน้าตา หากแต่คุณค่าของคนอยู่ที่จิตใจของคนนั้นต่างหาก

จองจุนยอง เจ้าชายนักว่ายน้ำ หล่อเลือกได้ แต่เขาก็มั่นคงกับสาวน้อยร่างใหญ่ที่เคยช่วยเขาไว้ในวัยเด็ก รูปร่างหน้าตาไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่หัวใจที่งดงามของบ๊กจูต่างหากที่สำคัญต่อเขา

เรื่องราวความรัก ความฝัน โดยมีโรงเรียนกีฬาเป็นพื้นหลังของเรื่อง จึงทำให้ละครเรื่องนี้สร้างรอยยิ้ม และทำให้ได้รับเสียงชื่นชมมากมาย จัดว่าเป็นละครฟีลกู๊ดอีกเรื่องที่ดีต่อใจจริงๆ

ใครยังไม่ดู ก็ควรดู เรื่องนี้พระ-นางอินเลิฟกันนอกจอด้วยนะเออ.....


วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

The Shining Eunsoo / Still Loving You.

The Shining Eunsoo ~ น้องมากับคำว่าใช่


ถึงจะเป็นคอซีรีย์เกาหลี แต่กลับไม่อดทนกับละครที่มีความยาวเกินระดับ 24 ตอนเอาเสียเลย และก็เป็นธรรมชาติของละครหัวค่ำวันเสาร์-อาทิตย์ของเกาหลี ที่ความยาวต้องไม่ต่ำกว่า 50 ตอน แค่ 30 ตอนยังต้องทำใจ แต่คราวนี้เล่นของยาวกันเลยทีเดียว จัดไป 125 ตอน 😅 ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเหมือนกัน
The Shining Eunsoo หรือ Still Loving You เป็นเรื่องราวของอึนซู (อียองอึน) หญิงสาวผู้มีความใฝ่ฝันอยากเป็นครูที่ดี และในขณะที่ความฝันของเธอกำลังจะเริ่มต้น ชีวิตรอบตัวทุกอย่างกำลังไปได้ดี คนรักที่รักกันมาจนความรักสุกงอมได้ตัดสินใจขอเธอแต่งงาน หน้าที่การงานก็มั่นคง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับกลายเป็นปราสาททรายที่ทลายลงตรงหน้า เมื่อเธอได้พบกับบิทนา (พัคฮานา) นักเรียนสาวสวย ฐานะดี ผู้เย่อหยิ่ง ที่เดินเข้ามาในชีวิตเธอ ราวกับคลื่นที่มาซัดสาดปราสาททรายสวยหรูของเธอ ให้พลังทลายลงตรงหน้า
อึนซูสูญเสียอาชีพที่เธอรัก สูญเสียคนรักที่จากลาเธอไปเพราะความหวาดกลัว และไม่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเธอในวันที่เธอหมดสิ้นทุกสิ่งอย่าง หนำซ้ำแม่ที่เธอรักเป็นที่สุด ยังต้องมาล้มป่วยด้วยมะเร็ง เธอไม่มีเวลาให้คร่ำครวญเสียใจ และต้องก้าวต่อไปข้างหน้า แม้ความผิดที่เธอไม่ได้ก่อยังคงติดค้างอยู่ในใจ และยังมีความหวังลึกๆ อยู่เสมอว่าสักวันความจริงว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์จะถูกเปิดเผย
ยุนซูโฮ(คิมดงจุน) ลูกชายคนเล็กของตระกูลยุน เกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่ผ่านความยากลำบากจนกระทั่งสร้างเนื้อสร้างตัวได้สำเร็จ จากธุรกิจร้านซุปเต้าเจี้ยวแบบดั้งเดิม เขามียุนซูฮยอนพี่ชาย กับยุนซูมินพี่สาวที่เรียนเก่ง และเป็นที่รักของผู้เป็นพ่อ ในขณะที่ซูโฮเรียนไม่เก่ง ทำอะไรไม่เคยสำเร็จ และมองโลกในแง่ดีจนน่าแปลกใจ ในขณะที่ซูฮยอนเรียนจบจากต่างประเทศ กลับมาสืบทอดธุรกิจของครอบครัว และคิดขยับขยายให้ก้าวหน้าด้วยการพัฒนาเป็นบริษัทผลิตภัณฑ์ปรุงรส แต่ซูโฮยังคงปฏิเสธที่จะสืบทอดธุรกิจของครอบครัวหลังจากที่เขาเรียนจบ
เมื่อผู้เป็นพ่อยื่นข้อเสนอเป็นเงินก้อนใหญ่ ให้ลูกชายคนเล็กที่มัวแต่เล่นสนุกไปวันๆ แลกกับการสอบใบประกอบเชฟ และไปเป็นเด็กฝึกงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง โดยไม่เปิดเผยตัวตน ทำให้ซูโฮต้องยินยอมทำตามความต้องการของพ่อ เพื่อแลกกับเงินที่ตัวเองต้องการ
และด้วยข้อตกลงที่ซูโฮทำกับพ่อตัวเอง ทำให้เขาได้พบกับอึนซู หญิงสาวรุ่นพี่ที่มีอายุมากกว่าเขาถึง 5 ปี ที่สอบผ่านได้มาเป็นเด็กฝึกงานด้วยกัน สถานการณ์ผลักดันให้ซูโฮและอึนซู ได้เรียนรู้กันและกัน ในวันที่อึนซูไร้คนเชื่อใจ ซูโฮเป็นเพียงคนเดียวที่เชื่อมั่นและอยู่เคียงข้างเธอ และเธอเป็นเพียงคนเดียว ที่ทำให้เขาอยากเป็นผู้ชายที่ดี จากซูโฮคนที่ไม่เอาไหน กลับกลายเป็นอีกคนที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนคนในครอบครัวสังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลง

ในขณะเดียวกัน ศัตรูเมื่อครั้งก่อนเก่าของอึนซู บิทนากลับกลายมาเป็นภรรยาของซูฮยอน พี่ชายคนโตของซูโฮ ผู้บริหารยุนกาฟู้ดส์ ที่เธอกำลังทำงานอยู่ เรื่องราว ความทรงจำที่แสนเจ็บปวดจากน้ำมือของบิทนา ที่เธอเข้าใจว่าเธอลืมเลือนไปหมดแล้ว จึงได้ย้อนกลับมาเตือนสติเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับยากกว่าครั้งเก่า เมื่อบิทนาคือพี่สะใภ้ของซูโฮ และความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซูโฮนั้น ได้ดำเนินมาถึงขั้นที่ไม่มีวันจะยอมแยกจากกัน...
ซูโฮมีพรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด คือการรับรสที่ดีเยี่ยมกว่าคนทั่วไป เขาสามารถแยกชนิดของส่วนผสมในอาหารได้ แค่เพียงลองชิม หลังจากที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยมายาวนาน อึนซูก็เข้ามาทำให้เขาค้นพบความสามารถของตัวเอง และผลักดันเขาไปในทางที่ถูก ซูโฮตัดสินใจไปอยู่ประจำที่ร้านอาหารกับพ่อ เรียนรู้การทำอาหารแบบดั้งเดิม ในขณะเดียวกันก็คิดค้นสูตรอาหารที่เหมาะกับยุคสมัย เพื่อต่อยอดธุรกิจร่วมกับพี่ชาย... แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะง่ายดาย ใช่ว่าอะไรๆ จะสวยงามได้ดั่งใจ และเขายังห่างไกลจากคำว่าประสบความสำเร็จ...
ความสัมพันธ์ต้องห้ามของซูโฮ กับอึนซูจะดำเนินไปอย่างไร ซูโฮจะกลายเป็นผู้ชายที่ดีกว่าของอึนซูได้หรือไม่ และเขาจะค้นพบตัวตนที่แท้ของตัวเองได้อย่างไร อึนซูจะได้รับความยุติธรรมกลับคืนมาหรือไม่ และบิทนาจะได้รับผลตอบแทนอย่างไร... จัดไปจ้า 125 ตอน 😅 แล้วจะรู้เอง^^

 นับจาก Ojakgyo Brothers นี่เป็นละครยาวมากกกกก เรื่องที่สองที่ยอมดู ไม่ใช่เพราะอะไรเลยจริงๆ นอกจากคิมดงจุน 😅
เนื้อเรื่องเป็นสไตล์ละครเย็นแม่บ้านเกาหลี ตัวละครเยอะมากๆ แต่ละคนจะมีเรื่องราวของตัวเอง แต่แน่นอนว่าพระนางมักมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับตัวละครนั้นๆ เสมอ มีบางช่วงบางตอนที่อาจจะยืดเยื้อไปบ้าง แต่จุดแข็งของละครเย็นคือ เน้นความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว การใช้ชีวิต ดูแล้วอบอุ่นในหัวใจจนอดไม่ได้ที่จะดูตอนต่อไปเรื่อยๆ
ในเรื่องดงจุนอายุน้อยกว่ายองอึน 5 ปี แต่ชีวิตจริงทั้งคู่มีอายุห่างกันถึง 10 ปี แต่กลับไม่ได้ทำให้รู้สึกแปลก จะมีก็เพียงเลิฟซีน ที่ดูจะน้อยผิดปกติถ้านับจากสตอรี่ไลน์ที่ทั้งคู่เป็นคู่รัก ที่รักกันจนหมดหัวใจ (เพิ่งมารู้จากตอนที่ดงจุนให้สัมภาษณ์ว่า ยองอึนแต่งงาน และมีลูกแล้ว เขาจึงกังวลมากหากจะต้องจูบยองอึน แล้วในอนาคตลูกสาวของเธอต้องมาเห็นแม่จูบกับผู้ชายอื่น อันนี้อาจจะเป็นเหตุให้เห็นคิสซีนของคู่นี้น้อยมากกกก แต่ซีนน่ารักๆ มีเพียบนาจา~)


ถามว่าชอบเนื้อเรื่องมั๊ย ~ เรื่องนี้ได้มาตรฐานตามสไตล์ละครเย็น ที่เน้นความอบอุ่น ความสัมพันธ์ ของคนในครอบครัว จรรโลงสังคม จรรโลงใจผู้ชม ไม่มีใครที่ร้ายสุดขั้ว ไม่มีใครที่ดีสุดขีด และด้วยความยาวมากของละคร บอกเลยว่า รอบเดียวก็เกินพอ 


😅


วันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

My Sassy Girl.

 บัณฑิตหน้าใส หัวใจสอดรู้ เชิดชูคุณธรรม เลิศล้ำความหล่อ


เห็นชื่อละครก็พาลให้หน้าของชาแทฮยอน เจ้าของบทบาทกยอนอูต้นฉบับลอยมา คำถามแรกของคนที่ไม่รู้จักจูวอน หรือเคยเห็นแต่ละครดราม่าหนักๆของจูวอน คงไม่พ้นคำว่า "จูวอนจะเป็นกยอนอูได้จริงหรือ"
My Sassy Girl ในยุค 2017 ถูกนำมาทำใหม่ในแบบฉบับโชซอน แต่แน่นอนว่า... เรื่องราวในหนัง 2 ชม. จะทำเป็นละครยาว 16 ตอน มันจะเป็นไปได้ยังไง?!
เพราะเหตุนี้ My Sassy Girl 2017 จึงไม่เหมาะกับคำว่า รีเมค (Remake) แต่นี่คือการรีโนเวท (Renovation) แบบที่ไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลยแม้แต่น้อย กยอนอู (จูวอน) ไม่ใช่หนุ่มเอ๋อหน้าซื่อ ที่ตกกระไดพลอยโจนไปกับหญิงสาวสวยที่แสนดื้อด้าน อย่างที่ต้นฉบับได้ทำไว้ แต่คราวนี้กยอนอู มีทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และความเฉลียวฉลาดระดับสมบัติแห่งโชซอน ไม่เหลือเค้าโครงความซื่อจนบื้อตามต้นฉบับเดิม
แม้การพบกันของกยอนอู ผู้เลิศล้ำในทุกด้าน กับองค์หญิงฮเยมยองที่ห่างไกลคำว่าสมบูรณ์แบบในแบบโชซอน จะเกิดขึ้นเพราะความบังเอิญและฤทธิ์ของเครื่องดื่มมึนเมา แต่เรื่องราวต่อจากนั้น กลับค่อยๆ เผยปมให้ผู้ชมได้เห็นว่า นี่ไม่ใช่ละครพีเรียดตลกชวนหัว อย่างที่คาดการณ์ไว้ แต่นี่คือละครเมโลดราม่า ที่แฝงการล้อเลียนเสียดสีสังคมยุคใหม่ในรูปแบบร่วมสมัยแต่สวมใส่ฮันบก
เรื่องราวดำเนินโดยมีปมหลักของเรื่องคือการสืบหาความจริง ของเหตุการณ์การปลดอดีตมเหสีอย่างมีเงื่อนงำ พร้อมกับเรื่องราวกลโกงของผู้มีอำนาจที่มักใหญ่ใฝ่สูง กับพระราชาที่ไม่อาจเป็นตัวของตัวเองได้ ปมความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นเพราะพิษรักแรงหึง และก็คลายความรุนแรงได้ด้วยสติปัญญาของกยอนอู ผู้ฝักใฝ่ใคร่รู้ในทุกความจริง ร่วมกับองค์หญิงฮเยมยองผู้ไม่ยอมใช้ชีวิตภายใต้กฏระเบียบและกรอบประเพณี ทำให้เกิดเรื่องที่จะหัวเราะก็ยังไม่สุด จะทุกข์ก็ยังงงๆ จะหลงรักก็ยังต้องถามใจ.....
หากตัดเส้นเรื่องที่เป็นเพียงเรื่องสมมุติขึ้นมา จึงไม่อาจหาข้อเท็จจริงหรืออ้างอิงใดๆ ในประวัติศาสตร์ได้ ก็ทำให้คนดูเชื่อได้ง่ายขึ้นว่าในเรื่องราวนั้น มันมีความเป็นไปได้จริงๆ ที่จะมีฮันรยูผู้โด่งดังไกลข้ามแดนไปจนถึงชิง หรือกระเป๋าหรูหรานำเข้าที่ใช้เป็นของอวดความโอ่อ่าของสตรีที่มีอันจะกิน รวมไปถึงโซจูกับตีนไก่เผ็ดที่หลงยุคไปถึงโชซอน


สำหรับคนที่ไม่ชอบละครย้อนยุคแบบเรา การดูละครเรื่องนี้เป็นเพราะนี่คือผลงานของจูวอนเท่านั้น หากถามถึงความพึงพอใจต่อเนื้อเรื่อง ต้องยอมรับว่าไม่ถูกจริตเอาเสียเลย ใน 2 ตอนแรก( 4 ตอนแรก ของเกาหลี) ยอมรับว่าละครทำให้เราหัวเราะได้ และด้วยโปรดักชั่นที่สวยงามจนทำให้รู้สึกได้ว่านี่คือจุดที่ยอดเยี่ยมที่สุดของละครเรื่องนี้ ทำให้เชื่อว่าหลายๆคน ค่อนข้างจะถูกจริตกับ 2 ตอนแรก แต่เมื่อเรื่องราวพัฒนามาถึงจุดที่ค่อยๆ เผยปมออกมา กลับทำให้รู้สึกว่าปมของเรื่องไม่ค่อยสมเหตุสมผล ทั้งที่เป็นงานพรีโปรดักชั่น สามารถตัดต่อที่มาที่ไปได้ดีกว่านี้ การตัดต่อที่ไม่เคยเผยถึงความผิดปกติทางความจำของกยอนอูเลย และความสัมพันธ์ของพระนางที่มีมาตั้งแต่วัยเด็ก แต่กลับไม่เคยเผยให้เห็นถึงความทรงจำต่อกันที่ติดค้างในใจเลย ทำให้เหตุผลที่ถูกดึงมาเป็นสาเหตุให้พระนางขัดแย้งนั้นดูถูกจับใส่มาง่ายๆแบบขาดการวางแผนจนเกินไป และในขณะเดียวกัน ความขัดแย้งที่ดูจะหาทางบรรจบไม่ได้ ก็กลายเป็นเพียงเรื่องไร้สาระไปในทันที เมื่อปมถูกคลาย...


ด้วยการเฝ้ารอผลงานของจูวอนชิ้นนี้ด้วยการจดจ้องและคาดหวัง ทำให้เรารู้สึกว่าผลที่ออกมาโดยรวมอยู่ในขั้นรับได้ แต่หากจำเพาะเจาะจงไปถึงรายละเอียดในเส้นเรื่อง เรายังรู้สึกว่าบทละครเบาและขาดมิติ จนไม่อาจส่งให้นักแสดงได้แสดงศักยภาพที่มีอยู่เต็มเปี่ยม ทั้งที่นักแสดงทุกคนเป็นที่ยอมรับเรื่องความสามารถอยู่แล้ว
ถึง My Sassy Girl จะไม่ใช่งานที่เราชื่นชมนัก แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ทำให้ความเชื่อมั่นที่เรามีต่อจูวอน สุดยอดนักแสดงในใจของเราคนนี้ลดลง นี่อาจจะเป็นอีกเพียงแค่ผลงานหนึ่งที่พิสูจน์ว่า "จูวอนจะทำได้ดี หากงานชิ้นนั้นเป็นผลงานต้นแบบจากเขาเอง"


วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Strong Woman Do Bongsoon.


เล่นใหญ่เพื่อคว้าใจเธอ....



ความตั้งใจแรกที่อยากดูเรื่องนี้ เพราะพัคโบยอง นางเอกไซส์มินิแต่ความน่ารักของเธอไม่มินิเอาซะเลย และด้วยความน่ารักของนางเอก ทำให้นี่เป็นซีรีย์จำนวนไม่กี่เรื่องที่เราดูสด ดูซับอิ้ง และปิดท้ายด้วยซับไทย ยังไม่นับรวมการวนดูซีนที่ชอบอีกไม่รู้กี่สิบรอบ

Strong Woman Do Bongsoon เป็นเรื่องราวของโดบงซุน (พัคโบยอง) หญิงสาวผู้ไม่เอาไหน แต่กลับมีพลังวิเศษที่สืบทอดทางยีนเฉพาะผู้หญิงในครอบครัวของเธอ ที่บังเอิญมาพบกับอันมินฮยอก (พัคฮยองชิก)  หนุ่มหล่อ ไฟแรง ประธานบริษัทเกมอันซอฟท์ แต่กลับมีข่าวลือมากมายว่าเขาเป็นเกย์ โชคชะตาอาจจะเล่นตลก หรืออาจจะเรียกว่าพรหมลิขิตก็เป็นได้ เมื่อมินฮยอกบังเอิญได้รู้ว่าบงซุนมีพลังพิเศษ ประกอบกับที่เขากำลังถูกคุกคามจากศัตรูที่มองไม่เห็น บงซุนจึงได้มาเป็นบอดี้การ์ดของเขา แล้วเรื่องราวตลกๆ ปนโรแมนติก แถมสืบสวนสอบสวน ลุ้นระทึก ก็ตามมา



ออกตัวว่าเป็นแฟนคลับพัคโบยอง ชื่นชอบในความน่ารักของนางเอกคนนี้มาตลอด แต่ในทางตรงกันข้าม เรากลับประเมินฮยองชิกไว้ต่ำมาก เพราะยี่ห้อไอดอล และผลงานที่เคยเล่นเป็นประธานหนุ่มสุดไฮโซก่อนหน้า ทำให้อคติมาเต็มเปี่ยม แบบถึงกับคิดกับตัวเองด้วยซ้ำว่า เสียดายนางเอก นี่จึงเป็นอีกงานที่ตัดใจดู เพราะชอบนางเอกมากเหลือเกิน

ซีรีย์เปิดตัวได้ดีระดับทุบสถิติเปิดตัวของช่อง แถมยังคงเรตติ้งสูงสุดของ jtbc ในแบบที่ใครก็ยังทำไม่ได้ แต่ที่มากไปกว่านั้นคือ เรามองฮยองชิกผิดไป จากที่เคยเสียดายนางเอก กลับกลายเป็นว่า ประธานอันมินฮยอก จะเป็นใครไม่ได้ ต้องพัคฮยองชิก คนนี้นี่แหละ!



Strong Woman Do Bongsoon อาจจะไม่ได้มีเส้นเรื่องที่ซับซ้อนยุ่งยากนัก และคงจะเดาตอนจบกันได้ไม่ยาก แต่เสน่ห์ที่แตกต่างคือ ความไม่ซับซ้อน ไม่ยุ่งยาก ตัวละครไม่เสียเวลากับการเข้าใจผิดกันไปมา (ไม่น้ำเน่านั่นเอง) และที่สำคัญที่สุดคือการแคสนักแสดง พระ-นางมีเคมีที่เข้ากัน ระดับที่ยากจะเชื่อได้ว่าเป็นเพียงการแสดง



⭐⭐⭐⭐ ให้เนื้อเรื่อง/บท คนเขียนบทดำเนินเรื่องตามสูตรสำเร็จทั่วไป แต่ที่โดดเด่นคือรายละเอียดของตัวละคร แม้จะขาดความสมเหตุสมผลเพราะเป็นแฟนตาซี แต่ก็ไม่ได้อึดอัดใจเวลาที่ดู
⭐⭐⭐⭐⭐ ทีมนักแสดง ตั้งแต่พระ-นาง ยันนักแสดงสมทบ เล่นใหญ่กันทุกบท จ้างร้อยเล่นล้านยังน้อยไป

ใครควรดู: คนที่เป็นแฟนพัคโบยอง พัคฮยองชิกไม่ควรพลาด ส่วนคนที่ยังไม่เป็น ก็ควรจะดู จะได้เป็นแฟนคลับกันไป 😅 และที่สำคัญ คนที่มองข้ามพัคฮยองชิก แบบที่เราเป็น ถือว่าโบยองได้พาเรามาเปิดตา เปิดใจ ได้เห็นว่าไม่ใช่แค่ร้องเพลงหรือเต้นได้ แต่ผู้ชายคนนี้ยังแสดงได้ดีอีกด้วย

#ปักหมุด นี่คือซีรีย์ที่รักมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง


วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Mirror of The Witch.

ปริศนาคำสาปเจ้าหญิง... ที่สงสัยคนดูก็จะโดนสาปไปด้วย ㅋㅋ




ช่วงนี้ดูว่างงานจริงจังมาก ดูซีรีส์แบบจบทันฉายจริงตอนต่อตอนเลยทีเดียว ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะดูแนวนี้เลย เป็นคนไม่ชอบซากึก แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ดูแถมดูจนจบด้วย

ปริศนาคำสาปเจ้าหญิง เริ่มเรื่องด้วยความวุ่นวายสมัยพ่อแม่ ด้วยเรื่องเดิมตั้งแต่สมัยเก่าเต่าล้านปี กษัตริย์ที่ปกครองเมืองโชซอน พระเจ้ามยองจง ที่ได้ขึ้นครองราชย์ตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้พระราชมารดา พระพันปีมุนจอง ต้องสำเร็จราชการแทน และแม้จะถึงวัยที่สามารถออกว่าราชการได้ด้วยตนเองแล้ว พระพันปีก็ยังคงไม่คืนพระราชอำนาจให้ ทำให้พระเจ้ามยองจงตกอยู่ในสถานะหุ่นเชิด เช่นเดียวกับ พระมเหสีชิมอินซุน ที่ถึงแม้จะมีตำแหน่งถึงพระมเหสี แต่กลับต้องตกอยู่ภายใต้การบงการทุกสิ่งอย่างจากพระพันปี เข้าตำราแม่ผัว ลูกสะใภ้ไม่มีผิดเพี้ยน

หลังการอภิเษกสมรสเป็นเวลานาน มเหสีชิมกลับไม่มีวี่แววว่าจะทรงพระครรภ์ ยังความเดือดเนื้อร้อนใจมาถึงพระพันปี ที่เกรงว่าอาจจะไม่มีรัชทายาทมาสืบทอดราชบัลลังค์ ไหนจะเรื่องราววุ่นวายภายในเมือง ราษฎรมีความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้น ไหนเลยจะนิ่งเฉยได้

กระบวนการเร่งให้มีรัชทายาทจึงเกิดขึ้น โดยไม่สนว่าวิธีที่จะได้มาซึ่งผู้สืบราชบัลลังค์จะเป็นเช่นไร การเรียกตัวฮงจู หัวหน้าธิดาเทพ (เรียกกันตามภาษาเราๆ ก็น่าจะหมายถึงหัวหน้าแม่มด หมอผี) โดยไม่ฟังคำทัดทานจากชเวฮยอนซอ ผู้นำลัทธิเต๋าแห่งวังหลวง ฮงจูรู้ได้ด้วยเวทย์มนต์คาถาว่าพระมเหสีชิม เป็นหมัน ไม่อาจจะให้กำเนิดรัชทายาทได้ แต่ไหนเลยจะเกินกว่ากำลังหัวหน้าธิดาเทพอย่างเธอ

ฮงจูจัดแจงทำพิธีด้วยการล่อลวงนางกำนัลที่มีพลังพิเศษคนหนึ่งมารับหน้าที่เป็นแม่อุ้มบุญ ก่อนจะทำการโยกย้ายทารกในครรภ์ให้ไปอยู่ในครรภ์ของพระมเหสีชิม ฟังดูเหลือเชื่อ(ก็เหลือเชื่อจริงๆ) แต่นี่อาจจะเป็นที่มาของการทำกิฟ อิกซี่ ผสมเทียมในปัจจุบันก็เป็นได้ 

เมื่อนางกำนัลผู้นั้นรู้ความจริงว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือ ก็สาปแช่งทารกในครรภ์ให้เป็นเด็กแฝดและต้องตายเมื่ออายุครบ 17 ปี คนที่มารัก และคนที่เด็กไปรักจะต้องตายทุกคน

เมื่อทารกคลอดออกมาก็เป็นเด็กแฝด ตรงตามคำพูดของนางกำนัลทุกสิ่ง ฮงจูจึงยังต้องคงสถานะของเธอไว้ด้วยการให้พระมเหสีเลือกระหว่างพระโอรสกับพระธิดา แน่นอนว่า มีเพียงพระโอรสเท่านั้นที่จะสืบทอดราชบัลลังค์ เป็นองค์รัชทายาท คำสาปจึงโดนยักย้ายจากพระโอรสมายังพระธิดา และต้องฆ่าพระธิดาเสีย เพื่อทำลายคำสาป ความล่วงรู้ไปถึงพระเจ้ามยองจู ด้วยความเสียพระทัย และหดหู่ที่ตนเองเป็นเพียงกษัตริย์อ่อนแอ ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย จึงทรงขอให้ชเวฮยอนซอ ดูแลพระธิดาให้อยู่รอดปลอดภัย

จนกระทั่งวันที่องค์หญิงผู้ไม่มีใครรู้จัก และองค์รัชทายาทซุนฮวี จวนเจียนใกล้จะมีพระชนมายุ 17 ชันษา กระบวนการตามล่า ฆ่าเพื่อล้างคำสาปจึงเกิดขึ้น

จุน (ยุนซียุน) ลูกชายของตระกูลโฮ แต่เป็นลูกที่เกิดจากทาส ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตอย่างแร้นแค้น พยายามทำทุกทางแลกเงินเพื่อมาไถ่ตัวแม่ให้เป็นไท และเพื่อแลกกับเงินมหาศาลที่มากพอจะไถ่ตัวแม่เขาได้ ทำให้จุนยอมเสี่ยงชีวิตเข้าไปในป่าสีนิล ป่าต้องห้าม ที่ถูกร่ำลือว่ามีแม่มดแสนสวยที่จับผู้ชายกินเป็นอาหาร เพื่อนำว่าวที่ลอยอยู่กลางป่ามาแลกกับเงิน และที่นี่เองทำให้จุนได้พบกับซอรี สาวสวยที่ใช้ชีวิตโดดเดี่ยวกลางป่า... เป็นที่มาของเรื่องราวทั้งหมด....


🌸 เกร็ดความรู้ด้านประวัติศาสตร์ 
- องค์รัชทายาทซุนฮวี มีชีวิตอยู่จริงในประวัติศาสตร์ แต่สิ้นพระชนม์ตั้งแต่พระชมมายุ 12 ชันษา ในซีรีส์ทรงสิ้นพระชนม์เมื่อ 17 ชันษา ตามคำสาปแช่ง
- จุน หรือโฮจุน พระเอกของเรื่อง ต่อมาคือหมอหลวงโฮจุน บุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์เกาหลี ผู้เขียนตำราทงอึยโพกัม หรือที่เรารู้จักกันจากซีรีส์ หมอโฮจุน คนดีที่โลกรอ
- ซีรีส์ถูกแต่งขึ้นโดยอ้างอิงถึงคนในประวัติศาสตร์จริง แต่เป็นการเสริมแต่งทั้งหมด

🌟🌟🌟 สำหรับเนื้อเรื่อง/บทละคร การเดินเรื่องไม่ซับซ้อนมาก แต่ปมสำคัญบางปมกลับถูกละเลย และเมื่อได้รับการคลายปม กลับทำให้รู้สึกว่าไม่ควรจะเสียเวลามากขนาดนี้ มีหลายตอนที่ทำให้รู้สึกว่าเนื้อเรื่องยืดเยื้อขาดความกระชับ
🌟🌟🌟🌟🌟ให้นักแสดงที่เหมือนจะถูกเรียกว่านักแสดงสมทบ อย่าง ยุนจองอาที่รับบทฮงจู อีซองแจในบทชเวฮยอนซอ จางฮีจินในบทมเหสีชิม อีจีฮุนในบทพระเจ้าซอนโจ ที่เรียกว่าจัดเต็ม และมีความสำคัญในการเดินเรื่องมากกว่าพระ-นางของเรื่องเสียอีก


🌟🌟🌟 สำหรับภาพรวมทั้งหมดของ Mirror of The Witch ถึงจะดูเหลือเชื่อ แต่ก็เพราะเป็นซากึกแนวแฟนตาซี แต่ยังมีหลายฉากหลายตอนในเรื่องที่เทียบเคียงได้กับเหตุการณ์ในปัจจุบัน ทั้งการล่าแม่มด โทษคนอื่นว่าเป็นสาเหตุแห่งความผิดพลาดทั้งปวง แต่กลับไม่มองถึงสาเหตุที่แท้จริง หรือแม้แต่การทำผิดพลาดเพราะความโลภครอบงำ ล้วนเป็นสิ่งที่สอนใจได้เป็นอย่างดี

❌รีวิวยาวมาก ยังกะพิศวาสซีรีส์เรื่องนี้มาก แต่จากใจนี่คือการอดทนดูซีรีส์ครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง หากไม่นับ Cheese in the trap ที่เป็นการเทซีรีส์ครั้งที่ 2 ในชีวิต ถือว่าเราได้ใช้ความอดทนกับซีรีส์เรื่องนี้จนถึงที่สุด ~ ไม่ดูอีกแล้ว 😅

Beautiful Gong Shim/ Dear Fair Lady Kong Shim.

ใครๆ ก็เป็นซินเดอเรลล่าได้...



ออกตัวแรงเอี๊ยดดดว่าไม่ใช่แฟนนัมกุงมินอีกเช่นเคย เหตุผลที่ดูซีรีส์เรื่องนี้ คือ ความตั้งใจว่า อยากดูซีรีส์ที่พระ-นางรักกันมากๆ เนื้อเรื่องไม่ต้องลึกลับซับซ้อน เป็นรักใสๆ หัวใจจะกี่ดวงก็ว่าไป แต่...เอ๊ะ ดูท่าจะไม่ใช่อย่างที่คิดแล้วสิ

เริ่มเรื่องด้วยสาวน้อยกงชิม (มินอา Girl's day) ที่ถอดแบบนางเอกเกาหลีสายฮามาเลย นั่นคือ ต้องโก๊ะ เปิ่น และไม่สวย เปิดเรื่องมาแบบนี้แสดงว่า พระเอกต้องหล่อมาก คุณชาย รวยเฟ่อร์ มาหารักแท้ แต่ไม่ใช่เลย อันดันแท (นัมกุงมิน) ทนายพ่อพระของคนยาก แต่กลับเป็นเพียงผู้ชายที่ดูกากๆ เมื่ออยู่นอกเวลางาน และที่สำคัญ จนซะไม่มี

เรื่องราววุ่นๆ เริ่มด้วยความเข้าใจผิดของกงชิม ที่ไม่สามารถมองทะลุความกากของอันดันแทไปจนถึงเนื้อในที่ขาวนวลได้ ทำให้เธอตั้งแง่ใส่เขา และพาลมองทุกสิ่งที่เขาทำเป็นสิ่งไม่ดีไปหมด ในขณะที่ดันแทกลับรู้สึกสะดุดกับของดีในตัวสาวน้อยเฉิ่มคนนี้ จนต้องทำตัวผิดปกติ ติดสอยห้อยตามไปทุกแห่ง จนน่ารำคาญใจ ว่ากันว่าน้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน แล้วหัวใจของกงชิมจะทนได้อย่างไร จากความรำคาญจึงกลายเป็นคุ้นชิน ความไว้ใจ วันไหนที่ไม่เห็นก็เหมือนว่าชีวิตจะขาดหายบางสิ่งบางอย่างไป

ซอกจุนซู (อนจูวาน) ทายาท(ถูกเข้าใจว่า)คนเดียวของ star group บริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลี ชายหนุ่มสุภาพ มาดนุ่ม ยิ้มละลายใจ แต่กลับไม่เคยได้รับการยอมรับจากท่านประธานใหญ่ ที่มีศักดิ์เป็นย่าของเขาเอง เพราะยังมีหลานชายอีกคนที่หายตัวไปตั้งแต่ 6 ขวบ และย่าของเขาก็เชื่อมาเสมอว่าซอกจุนพโย หลานชายคนโตยังคงมีชีวิตอยู่ จึงเฝ้ารอคอยให้หลานชายคนโตกลับมาสืบทอดธุรกิจของครอบครัว

จุนซูกับดันแทพบกันด้วยความบังเอิญ และได้พบว่าทั้งสองคนมีอะไรๆ ที่เหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งเรื่องอาหารการกิน และไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงที่ชอบก็ยังเป็นคนเดียวกัน

เรื่องราวรักสามเส้าแบบใสๆ ไร้พิษภัยจึงตามมา กงชิม สาวเฉิ่มสุดหัวใจ จะเลือกใครมาเป็นเจ้าชายของเธอ ระหว่างอันดันแท ทนายจอมกาก กับซอกจุนซู เจ้าชายในฝัน

นอกจากนี้ ดันแทยังต้องมาตกกระไดพลอยโจน ต้องไปช่วยย่าของจุนซูตามหาหลานชายคนโตของเธอ ก่อนจะพบว่า ความจริงแล้วซอกจุนพโย อยู่ใกล้กว่าที่คิด

หนทางการนำซอกจุนพโยไปสู่บัลลังค์ผู้บริหารสตาร์กรุ๊ปจึงเริ่มขึิ้นพร้อมกับแผนการจับตัวคนร้าย และความพยายามจะเอาชนะใจสาวเฉิ่มกงชิม ที่บอกได้เลยว่า... แทบไม่ต้องลุ้น 



❌เป็นการยากมากที่จะเขียนรีวิวโดยไม่ให้หลุดสปอยล์❌

🌟🌟 สำหรับบทละคร เนื้อเรื่อง จะว่าเป็นละครรักใสๆ ก็คงไม่เต็มปากนัก ในละครยังมีมุมสืบสวน สอบสวนเบาๆ เพื่อให้เรื่องมีสีสัน จะติดแต่ก็ตรงปมใหญ่ที่สุดของเรื่อง นั้นถูกคาดเดาได้ง่ายมาก ง่ายแบบไม่ลังเลใจสักนิดเดียว และในบางส่วนบางตอน มีเหตุผล/ที่มาที่ไปที่ขาดๆเกินๆ เมื่อปมเฉลยไม่สามารถทำให้คนดูอึ้งกับปมได้ ให้แค่ความรู้สึกว่า "กะแล้วเชียว" 

พล๊อตไม่มีความแปลกใหม่ เหมือนเราวนดูละครแบบเดิมๆ พล๊อตเดิมๆ 

🌟🌟🌟🌟 สำหรับนักแสดง/เคมี/บทบาท ถึงเนื้อเรื่องจะด้อยไปหน่อย แต่ยอมรับในสายตาของผู้ที่คัดเลือกนักแสดง ไม่รู้ว่ามองเห็นอะไรในตัวมินอา ที่มีลุคเซ็กซี่ แต่กลับเอามาแต่งเป็นสาวเฉิ่มได้อย่างสนิทใจ นัมกุงมิน พระเอกของเรื่อง บทพระเอกครั้งแรก หลังจากเดบิวต์มา 16 ปี ไม่ทำให้ผิดหวัง กุงมินเล่นเป็นดันแทได้น่าหมันไส้ แต่บทจะเท่ก็เท่ได้กรี๊ดสลบ บทจะหวานก็ทำเอาฟิน อนจูวาน น่าจะเป็นอีกคนที่ทำให้เกิด 2nd male lead syndrome ด้วยรอยยิ้มแบบคนดี๊ คนดี รักและเสียสละไปทุกสิ่ง เหมาะกับจูวานจริงๆ



🌟🌟🌟🌟 ให้ Ost. มีหลายเพลงให้เลือกฟัง เพลงธีมของกงชิมก็บอกเล่าความเป็นกงชิมได้อย่างดี หรือแม้แต่เพลงนำ My Face is Burning https://youtu.be/Y8u67MuNIMg ก็บ่งบอกถึงความสดใสของตัวละครอย่างดันแทและกงชิมได้เป็นอย่างดี

🌟🌟🌟 ให้ Beautiful Gong Shim ดูได้สบายๆ ไม่คิดเยอะ มองข้ามๆ ความผิดของคนอื่นไปบ้าง ก็นับว่าเป็นละครที่น่ารักเรื่องหนึ่ง

ปล. อาจเป็นส่วนลึกใต้จิตสำนึก ชอบตอนนัมกุงมินร้ายหน่อยๆ คือเวลากากก็ตลกดี แต่เวลาร้ายๆ กรี๊ดสติกระเจิงมาก Ep. สุดท้ายเหมือนเป็นคำตอบของทั้ง 19 Ep. ที่ดูมา นัมกุงมินที่อยากเห็น 😂😁

วันอังคารที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2560

Lucky Romance.


เสี่ยงดวง เสี่ยงรัก 



ออกตัวแรงจนล้อฟรีว่า ไม่ใช่ทีมจองพัลแต่อย่างใด เป็นทีมแท๊คตั้งแต่แคสนักแสดง ทีมแท๊คตั้งแต่แรกจนหยดสุดท้าย ฉะนั้นรยูจุนยอล ไม่มีผลต่อการตัดสินใจดูซีรีส์เรื่องนี้นะจ๊ะ

Lucky Romance สร้างจากเวบตูนชื่อดัง ที่มีข่าวว่าถูกบริษัทใหญ่ขอซื้อลิขสิทธิ์ไปทำเป็นแบบฉบับซีรีส์ และแน่นอนว่าบริษัทนั้นไม่ใช่คนอื่นคนไกล Huayibtothers ต้นสังกัดของพี่จ๋าจูวอนเองจ้า ข่าวลือว่าซีรีส์จะรีเมค มาพร้อมกับข่าวปฏิเสธบทใหญ่ จากซีรีย์ที่(คาดว่าจะ)ดัง ถึง 2 เรื่ิองซ้อนของจูวอน และฮวางจองอึมนางเอกของเรื่องที่ปฏิเสธบทนำใน Monster เรื่ิองเดียวกับที่เสนอบทให้จูวอน โดดมารับซีรีส์เรื่องนี้ ก่อนที่จะรู้เสียอีกว่าใครจะมารับบทเชซูโฮ พระเอกของเรื่อง ยิ่งส่งเสริมให้บล๊อกเกอร์พากันคาดเดาว่า จูวอนอาจจะคัมแบคด้วยโรแมนติกคอมเมดี้ก็เป็นได้

แต่... ปัง! หวยออกที่จองพัลทีม รยูจุนยอล นักแสดงดาวรุ่งที่ว่ากันว่า พ.ศ นี้ไม่มีใครจะร้อนแรง แหวกกฏพระเอกหน้าหล่อ ได้แบบที่จุนยอลทำได้อีกแล้ว (ไม่นับอูบินนะ พี่อุ๊บเขาเปรี้ยงไปล่วงหน้านานแล้ว)

เรื่องเริ่มที่ชิมโบนี (ฮวางจองอึม) สาวสวย(?) เคราะห์ร้าย เกิดมาพร้อมกับความซวย ใครที่ใกล้เธอ ใครที่รักเธอ มักจะมีเหตุให้มีอันต้องเป็นไป เหลือเพียงชิมโบราน้องสาวเพียงคนเดียวที่นอนเป็นผักในโรงพยาบาล คนที่เธอรักเพียงคนเดียว และคนสุดท้ายในชีวิต เธอจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดความซวยไปให้พ้นตัว 

เมื่อชีวิตสิ้นหวัง เมื่อมองไม่เห็นทางออก คนเราก็มักจะมุ่งเข้าทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อหมอดู เชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น และชิมโบนีก็เป็นหนึ่งในบุคคลสิ้นหวังเหล่านั้น การปฎิบัติการตามคำแนะนำของหมอดู ใช้ 1 คืนกับชายหนุ่มที่เกิดปีเสือ เพื่อยื้อชีวิตน้องสาวของเธอจึงเริ่มขึ้น

เชซูโฮ (รยูจุนยอล) ชายหนุ่มอัจฉริยะ ปีเสือ ประธานบริหารเชเจแฟคทอรี่ บริษัทผู้คิดค้นเกมที่(น่าจะ)ใหญ่ที่สุดในเกาหลี ผู้ใช้ชีวิตบนเหตุผล ทุกอย่างอธิบายได้ด้วยทฤษฎี และความเป็นเหตุเป็นผล ชีวิตมีแค่ 0 กับ 1 ไม่เคยเชื่อในเรื่องโชคชะตา และสิ่งที่มองไม่เห็น

ว่ากันว่าการเจอกันครั้งแรกเป็นเรื่องของพรหมลิขิต ส่วนครั้งต่อไปเป็นเรื่องของความพยายาม แต่การโคจรมาเจอกันของชิมโบนีและเชซูโฮเป็นมากกว่าพรหมลิขิต และการเจอกันครั้งต่อมาเป็นเรื่องของบทละคร ㅋㅋㅋ 

ในขณะที่คนเขียนบทพยายามจะล่อลวงคนดูให้ลุ้นไปกับชิมโบนีว่าจะได้กินพ่อหนุ่มอัจฉริยะเชซูโฮ เพื่อต่อดวงชะตาให้กับน้องสาวของเธอสำเร็จหรือไม่ เชื่อว่าผู้ชมคงมีคำตอบในใจ และหันไปลุ้นกับเรื่องอื่นเสียมากกว่า ก็เนื้อเรื่องเดินมาตามสูตรสำเร็จซีรีส์รอมคอมสัญชาติเกาหลีซะขนาดนั้น

แต่... อย่านะ อย่าเพิ่งตัดใจ เดาทางกันได้ เลยจะไม่ดูงี้? ถึงเนื้อเรื่องจะดูธรรมดาไปหน่อย ไม่มีพลิกล๊อคหักมุมถล่มทลาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ไหวเลยซะทีเดียว เพราะหากคุณข้ามเรื่องนี้ไป คุณอาจจะพลาดความน่ารักของผู้ชายที่โด่งดังมากที่สุดคนหนึ่งของเกาหลีในเวลานี้ แท้นแท้นแท่นแท่นนนน เขาคือ รยูจุนยอล!

จุนยอล ถอดความเป็นเชซูโฮออกมาได้น่ารัก ผสมความตลก เป็นอัจฉริยะสายฮาหน้าตาย แบบที่ดูแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ ถึงขนาดที่ว่าสาวๆ หลายคนปวารณาตัวขอมีผัวเป็นประธานเชเจ แม้จะไม่มีซีนที่โชว์ความสามารถด้านการแสดงอย่างโจ่งแจ้งนัก แต่การแสดงในระดับที่พอดีของจุนยอล ก็ถือว่าเอาอยู่เหมือนกัน

ฮวางจองอึม เจ้าแม่เรตติ้งคนหนึ่งของเกาหลี สร้างความคาดหวังระดับมหาศาล เพราะนี้เป็นผลงานคัมแบคหลังการแต่งงานกับโปรกอล์ฟชาวเกาหลี และนี้เป็นผลงานต่อจากซีรีส์ที่เป็นปรากฎการของเธออย่าง She was pretty. ถามว่าการแสดงมีปัญหาไหม ตอบเลยว่าไม่ แต่ปัญหาคือบทที่เธอเลือกคัมแบค กลับดูไม่ต่างจากผลงานเรื่องก่อนหน้า การกลับมาครั้งนี้จึงผิดฟอร์มไปไม่น้อย



🌟🌟🌟 ให้เนื้อเรื่อง เนื้อหาโดยรวม ถือว่าเป็นซีรีส์ฆ่าเวลาระหว่างรอการคัมแบคของเมนหลักได้ดี เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี มีจิกหมอนเบาๆ
❌ ใบแดงให้โคดี้ของจองอึม แฟชั่นที่ไม่อาจเข้าใจ ลึกลับซับซ้อนเกินไป จนทำลายความสวยของนางเอกให้กลายเป็นคนแต่งตัวประหลาดไป แต่ถึงยังไงก็คุมโทนประหลาดจนจบเรื่องนะจ๊ะ
🌟🌟🌟🌟🌟 ให้โคดี้ของจุนยอล เชซูโฮดูเทรนดี้ มีความชิค และในขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้ดูเคร่งเครียดจนเกินไป ด้วยเสื้อผ้าที่บอกไลฟสไตล์ของซิตี้บอยได้อย่างครบถ้วน
🌟🌟🌟🌟🌟 ให้ ost. เพลงประกอบละครเพราะมากๆ แนะนำเพลงนี้เลย https://youtu.be/OGVTWDKNCUM เนเก คีเท เสียงร้องของ จุนซู ที่ฟังแล้วก็อยากจะซบไหล่คนร้องซะนี่กะไร

Recommend สำหรับคนว่างๆ ชิลๆ ไม่รู้จะดูอะไร เมนหลักไม่คัมแบคสักที วนซีรีส์ของเมนหลักจนท่องบทได้ขึ้นใจทุกคำพูด ซีรีส์เรื่องนี้จะช่วยให้คุณผ่อนคลาย ดูสบายๆ ไร้ความกังวล

วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2560

Perfect Proposal...


ซินเดอเรลล่า... ไม่มีจริง



เริ่มเรื่องที่จียอน (อิมซูจอง) สาวสวยตกอับที่จำต้องทำงานในบาร์หาเงินใช้หนี้แทนเพื่อนสนิทที่ก่อหนี้ไว้ ด้วยภาระหนี้สินบีบบังคับ ทำให้เธอต้องตกลงใจเข้าไปสมัครเป็นผู้ดูแลตาแก่มหาเศรษฐีคิมซอกกู แลกกับเงินตอบแทนก้อนโต.. แต่นั้นกลับเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อเธอได้พบกับซึงยอล (ยูยอนซอก) ลูกชายนอกสมรสของคิมซอกกู และได้ตกลงทำสัญญาลับๆ ร่วมกัน เพื่อแลกกับมรดกก้อนใหญ่ จำนวนมหาศาลเกินกว่าที่เธอจะคาดไว้ ทำให้อดไม่ได้ที่จะตกกระไดผลอยโจนไปกับสัญญาที่ไร้ช่องโหว่นี้

จียอนถูกแปลงโฉม และวางคาแรคเตอร์ให้เป็นเหมือนรักแรกของตาแก่ซอกกู โดยมีซึงยอลเป็นผู้ดูแลและจัดการทุกสิ่งอย่าง ฉากชีวิตที่ถูกเขียนขึ้นมีฉากหลังเป็นเรือยอท์ชที่หรูหรา สิ่งที่เธอต้องทำก็มีแค่เพียง ทำให้ตาแก่ตกหลุมรัก และแต่งงานกับเธอ ในระหว่างที่เรื่ิองราวกำลังดำเนินไป เธอกลับรู้สึกได้ว่า ความจริงแล้วคนที่เธออยากจะใช้ชีวิตอยู่ด้วย คือ ซึงยอล บุตรชาย หาใช่ซอกกู ผู้เป็นพ่อ

บางทีนี่อาจจะเป็นเพียงภาพยนตร์เล่นชู้ ผิดศีลธรรม หากคนเขียนบทไม่พาเราที่กำลังหลงใหลได้ปลื้มไปกับความรักแบบหลบๆ ซ่อนๆ ของจียอน-ซึงยอล ให้ต้องอ้าปากค้างด้วยการหักมุมแบบที่โปสเตอร์ภาพยนตร์ก็บอกอะไรเราไม่ได้ 

พูดมากก็ดูจะเป็นการสปอลย์ขั้นสุด แต่ยอมรับว่า บทภาพยนตร์เขียนมาได้ดีมาก ดีจนอึ้งว่า จบแบบนี้ก็ได้เหรอ...

ยูยอนซอก กับบทซึงยอล ~ ยอนซอกเป็นหนุ่มเกาหลี ใสๆ ที่ให้จินตนาการถึงความเลวร้ายก็คงเป็นไปได้ยาก แต่เราจะได้เห็นยอนซอกในแบบที่เย่อหยิ่ง ชั่วร้าย แต่ก็เร่าร้อน ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้ ลืมพ่อหนุ่มชิลบง 7 ไม้ ที่อกหักรักคุดไปได้เลย เพราะยอนซอกจะทำให้คุณได้เห็นว่า หน้าใสๆ นั่นแหละใจร้ายนัก!

อิมซูจอง ~ ส่วนตัวดูงานของเธอน้อยมาก รู้เพียงแต่ว่านี้คือตัวแม่คนหนึ่งของวงการหนังเกาหลี และแน่นอนว่าชื่อชั้นของเธอไม่ทำให้ผิดหวัง ซูจองรับบทหญิงสาวสู้ชีวิต ที่แอบฝันว่าสักวันจะได้เป็นซินเดอเรลล่า แต่กลับต้องร่วงลงจากหลังม้า เพราะเจ้าชายไม่มีจริง ได้อย่างน่าทึ่ง ทึ่งระดับที่ว่า รู้แบบนี้น่าจะหางานของเธอมาดูให้มากกว่านี้

☆☆☆☆ สำหรับบทภาพยนตร์ ที่เหมือนรถไฟฟ้าเหาะ ตื่นเต้น และยากจะคาดเดา ชอบมากจริงๆ
☆☆☆☆ สำหรับโปสเตอร์ และเทรลเลอร์ที่หลอกกันเล่นเฉยเลย เชื่อเราสิว่าโปสเตอร์ไม่ทำให้คุณเข้าใจว่านี่คือภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวน 
☆☆☆ ให้ยูยอนซอก คุณหลอกดาว... แต่ก็ชอบในฝีมือนะ นักแสดงคนนี้เล่นได้อิน ได้ดีทุกบทบาทแบบที่หน้าใสๆ ไม่มีผลต่อบทเลย

Recommend ให้คนที่ชอบภาพยนตร์แนวซ่อนหา ซ่อนแอบ ลึกลับ ฆาตรกรรม ว่าควรต้องดู ดูแล้วจะไม่ผิดหวัง แต่ถ้าไม่ถูกใจ ก็คิดซะว่าไปดูซิกแพคของยอนซอกเพลินๆ ล่ะกัน #ของเขาดีมีคุณภาพจริงๆ

Mood of The Day.

Mood of The Day (그날의 분위기) 
หนังรักฉบับเกาหลี แต่มีกลิ่นอายของหนังรักดิสนีย์เต็มเปี่ยม



ออกตัวว่าไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ของยูยอนซอกแต่ประการใด แต่มานับๆดู นี่ดูหนังยูยอนซอกไปเยอะมาก แทบจะทุกเรื่องเลย 

Mood of The Day ปล่อยโปสเตอร์มาซะแบบที่เราคิดว่ามันจะเป็นโรแมนติกคอเมดี้ แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่นับว่าคอเมดี้อะไรมากมาย ไปทางโรแมนติก(แต่ไม่เศร้า)ซะมากกว่า

ยูยอนซอก รับบท คิมแจฮยอน ตัวแทนของเอเจนซี่นักกีฬาชื่อดัง ที่เรียกว่ามีอาวุธเป็นหน้าตา ความสามารถพิเศษคือการเจรจา เจรจาเก่งระดับที่ว่าฟันสาวได้ไม่ซ้ำหน้าและไม่เคยมีปัญหาให้มาตามล้างตามเช็ด

มุนแชวอน รับบท เบซูจอง สาวสวยผู้บริหารบริษัทเครื่องสำอางที่กำลังต้องการตัวนักกีฬาในสังกัดของคิมแจฮยอนมาเป็นพรีเซนเตอร์ ด้วยความที่เธอสวยและเก่ง ทำให้คนรอบข้างเข้าใจไปว่าชีวิตของเธอคงจะสมบูรณ์แบบ แต่ความจริงเธอกำลังอยู่ในความสัมพันธ์ขั้นที่ว่ากลับตัวก็ปวดใจ จะเดินต่อไปก็ยากจะอดทน

ความบังเอิญพาทั้งคู่มาพบกัน ความสัมพันธ์ที่เริ่มจากคำว่า "one night stand" พาให้เกิดเป็นเรื่องราวสนุกๆ ปนความโรแมนติก กับอีกบทพิสูจน์ของคำว่า "รักแท้น่าจะมีอยู่จริง"

นักแสดงนำ - ส่วนตัวคิดว่าเลือกนักแสดงมาได้เหมาะกับบทมากเลยทีเดียว นึกภาพ หล่อ ละมุน เกาหลี แบบยูยอนซอก ก็ไม่แปลกใจนักถ้าหน้าแบบนี้จะควงดาบใส่สาวๆ ได้แบบไม่เลือกหน้า ส่วนของมุนแชวอน บทสไตล์นี้นับว่าเข้าทางเธอเลยทีเดียว

ด้วยความที่เป็นหนังรักเรื่อยๆ ลองนึกถึง The Proposal อะไรแบบนั้น เป็นหนังรักที่ดูแล้วอมยิ้ม อบอุ่นเบาๆ แต่ไม่ถึงกับประทับใจจนต้องดูอีก และด้วยความชิล ความเบา เราจึงไม่ได้เห็นซีนฟาดฟันอารมณ์โฉ่งฉางอะไร นอกจากการแสดงตามมาตรฐานของนักแสดงนำ

จริงๆ แล้วชอบแบบ He just not that into you. ที่ดูแล้วรู้สึกว่าในความรอมคอมมันยังมีจุดให้คิด หรือ Nothing Hill ที่ยังแอบสะกิดใจเรานิดๆ ซึ่ง Mood of The Day ยังคงไม่ถึงระดับนั้น

🌟🌟🌟 สำหรับเนื้อเรื่อง บท
🌟🌟🌟🌟 สำหรับนักแสดงนำ เคมี
🌟🌟🌟🌟🌟 และ 👍 100 ครั้ง สำหรับ Yoo Yeonsuk Thaifans ซับไทยที่ทำให้ดูฟรี ก็รู้นะว่าผิดกฎหมาย แต่สำหรับคนทำซับที่ทำด้วยหัวใจ ไม่มีอะไรนอกจากอยากให้คนอื่นได้เห็นผลงานของนักแสดงที่ตัวเองชอบ โดยไม่ต้องรอ Big Cinema (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้ดูมั๊ย) นับถือหัวใจค่ะ

Next: รีวิวคราวหน้า The Perfect Proposal ผลงานยูยอนซอกอีกเช่นกัน ดูจบแล้ว แต่ยังไม่ได้คุยเลย คราวหน้านะ 😘

Good Morning Call

อยู่ๆ ไปก็รักกันเอง.... ห่างหายจากซีรีย์ญี่ปุ่นมานานพอสมควร เรื่องล่าสุดที่ดูคือ Nodame Cantabile. ด้วยความที่ไม่ชอบแอคติ้งแบบการ์ตูนข...