บัณฑิตหน้าใส หัวใจสอดรู้ เชิดชูคุณธรรม เลิศล้ำความหล่อ
เห็นชื่อละครก็พาลให้หน้าของชาแทฮยอน เจ้าของบทบาทกยอนอูต้นฉบับลอยมา คำถามแรกของคนที่ไม่รู้จักจูวอน หรือเคยเห็นแต่ละครดราม่าหนักๆของจูวอน คงไม่พ้นคำว่า "จูวอนจะเป็นกยอนอูได้จริงหรือ"
My Sassy Girl ในยุค 2017 ถูกนำมาทำใหม่ในแบบฉบับโชซอน แต่แน่นอนว่า... เรื่องราวในหนัง 2 ชม. จะทำเป็นละครยาว 16 ตอน มันจะเป็นไปได้ยังไง?!
เพราะเหตุนี้ My Sassy Girl 2017 จึงไม่เหมาะกับคำว่า รีเมค (Remake) แต่นี่คือการรีโนเวท (Renovation) แบบที่ไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลยแม้แต่น้อย กยอนอู (จูวอน) ไม่ใช่หนุ่มเอ๋อหน้าซื่อ ที่ตกกระไดพลอยโจนไปกับหญิงสาวสวยที่แสนดื้อด้าน อย่างที่ต้นฉบับได้ทำไว้ แต่คราวนี้กยอนอู มีทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และความเฉลียวฉลาดระดับสมบัติแห่งโชซอน ไม่เหลือเค้าโครงความซื่อจนบื้อตามต้นฉบับเดิม
แม้การพบกันของกยอนอู ผู้เลิศล้ำในทุกด้าน กับองค์หญิงฮเยมยองที่ห่างไกลคำว่าสมบูรณ์แบบในแบบโชซอน จะเกิดขึ้นเพราะความบังเอิญและฤทธิ์ของเครื่องดื่มมึนเมา แต่เรื่องราวต่อจากนั้น กลับค่อยๆ เผยปมให้ผู้ชมได้เห็นว่า นี่ไม่ใช่ละครพีเรียดตลกชวนหัว อย่างที่คาดการณ์ไว้ แต่นี่คือละครเมโลดราม่า ที่แฝงการล้อเลียนเสียดสีสังคมยุคใหม่ในรูปแบบร่วมสมัยแต่สวมใส่ฮันบก
เรื่องราวดำเนินโดยมีปมหลักของเรื่องคือการสืบหาความจริง ของเหตุการณ์การปลดอดีตมเหสีอย่างมีเงื่อนงำ พร้อมกับเรื่องราวกลโกงของผู้มีอำนาจที่มักใหญ่ใฝ่สูง กับพระราชาที่ไม่อาจเป็นตัวของตัวเองได้ ปมความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นเพราะพิษรักแรงหึง และก็คลายความรุนแรงได้ด้วยสติปัญญาของกยอนอู ผู้ฝักใฝ่ใคร่รู้ในทุกความจริง ร่วมกับองค์หญิงฮเยมยองผู้ไม่ยอมใช้ชีวิตภายใต้กฏระเบียบและกรอบประเพณี ทำให้เกิดเรื่องที่จะหัวเราะก็ยังไม่สุด จะทุกข์ก็ยังงงๆ จะหลงรักก็ยังต้องถามใจ.....
หากตัดเส้นเรื่องที่เป็นเพียงเรื่องสมมุติขึ้นมา จึงไม่อาจหาข้อเท็จจริงหรืออ้างอิงใดๆ ในประวัติศาสตร์ได้ ก็ทำให้คนดูเชื่อได้ง่ายขึ้นว่าในเรื่องราวนั้น มันมีความเป็นไปได้จริงๆ ที่จะมีฮันรยูผู้โด่งดังไกลข้ามแดนไปจนถึงชิง หรือกระเป๋าหรูหรานำเข้าที่ใช้เป็นของอวดความโอ่อ่าของสตรีที่มีอันจะกิน รวมไปถึงโซจูกับตีนไก่เผ็ดที่หลงยุคไปถึงโชซอน
สำหรับคนที่ไม่ชอบละครย้อนยุคแบบเรา การดูละครเรื่องนี้เป็นเพราะนี่คือผลงานของจูวอนเท่านั้น หากถามถึงความพึงพอใจต่อเนื้อเรื่อง ต้องยอมรับว่าไม่ถูกจริตเอาเสียเลย ใน 2 ตอนแรก( 4 ตอนแรก ของเกาหลี) ยอมรับว่าละครทำให้เราหัวเราะได้ และด้วยโปรดักชั่นที่สวยงามจนทำให้รู้สึกได้ว่านี่คือจุดที่ยอดเยี่ยมที่สุดของละครเรื่องนี้ ทำให้เชื่อว่าหลายๆคน ค่อนข้างจะถูกจริตกับ 2 ตอนแรก แต่เมื่อเรื่องราวพัฒนามาถึงจุดที่ค่อยๆ เผยปมออกมา กลับทำให้รู้สึกว่าปมของเรื่องไม่ค่อยสมเหตุสมผล ทั้งที่เป็นงานพรีโปรดักชั่น สามารถตัดต่อที่มาที่ไปได้ดีกว่านี้ การตัดต่อที่ไม่เคยเผยถึงความผิดปกติทางความจำของกยอนอูเลย และความสัมพันธ์ของพระนางที่มีมาตั้งแต่วัยเด็ก แต่กลับไม่เคยเผยให้เห็นถึงความทรงจำต่อกันที่ติดค้างในใจเลย ทำให้เหตุผลที่ถูกดึงมาเป็นสาเหตุให้พระนางขัดแย้งนั้นดูถูกจับใส่มาง่ายๆแบบขาดการวางแผนจนเกินไป และในขณะเดียวกัน ความขัดแย้งที่ดูจะหาทางบรรจบไม่ได้ ก็กลายเป็นเพียงเรื่องไร้สาระไปในทันที เมื่อปมถูกคลาย...
ด้วยการเฝ้ารอผลงานของจูวอนชิ้นนี้ด้วยการจดจ้องและคาดหวัง ทำให้เรารู้สึกว่าผลที่ออกมาโดยรวมอยู่ในขั้นรับได้ แต่หากจำเพาะเจาะจงไปถึงรายละเอียดในเส้นเรื่อง เรายังรู้สึกว่าบทละครเบาและขาดมิติ จนไม่อาจส่งให้นักแสดงได้แสดงศักยภาพที่มีอยู่เต็มเปี่ยม ทั้งที่นักแสดงทุกคนเป็นที่ยอมรับเรื่องความสามารถอยู่แล้ว
ถึง My Sassy Girl จะไม่ใช่งานที่เราชื่นชมนัก แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ทำให้ความเชื่อมั่นที่เรามีต่อจูวอน สุดยอดนักแสดงในใจของเราคนนี้ลดลง นี่อาจจะเป็นอีกเพียงแค่ผลงานหนึ่งที่พิสูจน์ว่า "จูวอนจะทำได้ดี หากงานชิ้นนั้นเป็นผลงานต้นแบบจากเขาเอง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น